ราชสีห์ ไก่และลา

ราชสีห์ ไก่และลา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีไก่และลาเป็นเพื่อนรักกันมานาน ทั้งคู่มักจะออกมาหากินที่ป่าด้วยกันอยู่เป็นประจำจนไม่คิดว่าจะมีอันตรายใด ๆที่จะทำให้พวกมันหวาดกลัวได้ วันหนึ่งในวันหนึ่งขณะที่ไก่และลากำลังออกหาอาหารอยู่ด้วยกันอย่างเพลิดเพลินนั้นได้มีราชสีห์ตัวหนึ่งซึ่งมันก็ก็จ้องที่จะมาล่าไก่และลาเป็นอาหารมานานแล้ว มันจึงได้คิดอุบายขึ้น โดยได้ตะโกนร้องออกมาดัง ๆว่า

แนะนำตัวละคร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีไก่และลาเป็นเพื่อนรักกันมานาน ทั้งคู่มักจะออกมาหากินที่ป่าด้วยกันอยู่เป็นประจำจนไม่คิดว่าจะมีอันตรายใด ๆที่จะทำให้พวกมันหวาดกลัวได้
วันหนึ่งในขณะที่ไก่และลากำลังออกหาอาหารอยู่ด้วยกันอย่างเพลิดเพลินนั้นได้มีราชสีห์ตัวหนึ่งซึ่งมันก็จ้องที่จะมาล่าไก่และลาเป็นอาหารมานานแล้ว  มันจึงได้คิดอุบายขึ้น โดยได้ตะโกนร้องออกมาดัง ๆว่า
ไก่
ไก่

ฮ่าๆๆวันนี้ช่างอากาศดีเหลือเกินข้ารู้สึกอิ่มและมีความสุขมากๆเลย

ลาได้ยินดังนั้นจึงร้องขึ้นมาบ้างว่า
ลา
ลา

ใช่ๆพวกเราช่างมีความสุขเหลือเกินจริงๆนะ

พวกมันได้พากันร้องเสียงรำวงดังทั่วไปหมดซึ่งเสียงนั้นได้ทำให้ราชสีห์ตกใจแล้วก็วิ่งหนีไป
เจ้าลากับไก่คิดว่าราชสีห์กลัวพวกมันจึงได้มีความคิดลึกคะนองแล้วพากันวิ่งรองไล่ตามหลังราชสีห์ไปอย่างไม่หยุดยั้งราชสีห์เห็นดังนั้นก็ค่อยๆวิ่งออกไปไม่ห่างจากเจ้าลาและไก่ไม่มากนัก แล้วมันก็ได้หยุดรอ
ราชสีห์
ราชสีห์

นี่พวกเจ้าช่างไม่รู้อะไรเลยนะไม่รู้ว่านี่คือกับดักของข้าเองข้าจะต้องกินพวกเจ้าให้จงได้

เมื่อมาถึงกลางป่าลึกลาและไก่ก็หยุดวิ่งโดยหารู้ไม่ว่ามีเจ้าราชสีห์ได้จับจ้องมองเพื่อที่จะกินมันอยู่
ราชสีห์
ราชสีห์

เจ้าเป็นอาหารของข้าแล้วเจ้าไก่และลาโง่

และแล้วราชสีห์ก็หันมาขย้ำกินไก่เป็นอาหารได้อย่างง่ายดาย

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนที่มักอวดตนเองทำให้เกิดความล้มลงนำมาซึ่งความประมาทย่อมได้รับอันตรายจากศัตรูได้โดยง่าย”

ควายหนุ่มตัวหนึ่งเห็นควายแก่อีกตัวทำงานหนักทุกวัน ในขณะที่ตัวมันสุขสบาย ไม่เคยทำอะไรเลย ก็รู้สึกเวทนา มันจึงบอกความแก่ว่า ท่านแก่ป่านนี้แล้วยังจะทำงานหนักอยู่อีก

มีนักธนูฝีมือดีอยู่คนหนึ่งเขาได้ออกเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อที่จะล่าสัตว์แต่ด้วยความเก่งกาจและความหน้าแกรงขามของเขานั้นทันทีที่เขาได้ย่างเท้าก้าวเขาไปในป่าได้ทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวพากันแตกตื่นวิ่งหนีเขาเพื่อเอาชีวิตรอดไปกันหมดในเวลาที่เขาเข้าใกล้พวกมัน

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกบฝูงใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในบึงน้ำกว้างอย่างมีความสุข ต่อมาในเช้าวันหนึ่งพวกกบเหล่านี้จึงปรึกษากันว่าพวกเราอยู่แบบนี้ด้วยกันมานานแล้วอยากจะหาเจ้านายหรือใครก็ได้เขาจะได้เป็นผู้นำและดูแลทุกข์สุข ช่วยปกครองดูแลพวก มันจึงได้รวมตัวกันและทำการร้องขอต่อเทวดาว่า

มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี

เจ้าหมา เดินคาบเนื้อมาอย่างสบายใจหวังจะหาที่สงบเงียบสักแห่งก่อนจะกินเนื้อที่ได้มาอย่างอร่อยมันได้เดินมาหยุดอยู่ที่ตรงสะพานจนสังเกตเห็นว่ามีเงาตัวอะไรในน้ำ ดูแล้วก็คล้ายๆตัวของมันเอง แต่มีก้อนเนื้อในปากที่ใหญ่กว่า

ชายชราผู้มีความสามารถในการแยกแยะสิ่งมีชีวิตรวมถึงเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆเพียงแค่ใช้มือสัมผัสเท่านั้นเขาก็บอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตข้างหน้าเขาคือตัวอะไร

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอเพียงแค่เราใช้สติในการตัดสินใจและมองหาทางออกอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้

วันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสนจะแห้งแล้งและก็อบอ้าว สิงโตและแพะต่างก็เดินหาแหล่งน้ำเพื่อที่พวกมันจะดื่มและดับกระหาย จนพวกมันเดินมาพบกับหนองน้ำแห่งหนึ่งแต่หนองน้ำแห่งนี้ไม่มีน้ำอยู่เลย มันช่างดูแห้งขอดเหลือเกิน สิงโตและแพะต่างทะเลาะกันถกเถียงกันเพื่อที่จะแย่งกันกินน้ำจนทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น