สิงโตกับแพะ

สิงโตกับแพะ

วันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสนจะแห้งแล้งและก็อบอ้าว สิงโตและแพะต่างก็เดินหาแหล่งน้ำเพื่อที่พวกมันจะดื่มและดับกระหาย จนพวกมันเดินมาพบกับหนองน้ำแห่งหนึ่งแต่หนองน้ำแห่งนี้ไม่มีน้ำอยู่เลย มันช่างดูแห้งขอดเหลือเกิน สิงโตและแพะต่างทะเลาะกันถกเถียงกันเพื่อที่จะแย่งกันกินน้ำจนทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น

แนะนำตัวละคร
วันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสนจะแห้งแล้งและก็อบอ้าว สิงโตและแพะต่างก็เดินหาแหล่งน้ำเพื่อที่พวกมันจะดื่มและดับกระหาย จนพวกมันเดินมาพบกับหนองน้ำแห่งหนึ่งแต่หนองน้ำแห่งนี้ไม่มีน้ำอยู่เลย มันช่างดูแห้งขอดเหลือเกิน สิงโตและแพะต่างทะเลาะกันถกเถียงกันเพื่อที่จะแย่งกันกินน้ำจนทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น
สิงโต
สิงโต

ข้าเห็นน้ำก่อน ข้าจะต้องได้กินมันก่อนเจ้า

แพะ
แพะ

ข้าต่างหากที่เห็นแหล่งน้ำนี้ก่อน ข้าจึงสมควรจะได้กินมันก่อนเจ้า เจ้าสิงโต

และแล้วพวกมันก็ต่อสู้กันต่อไปจนทั้งคู่รู้สึกเหนื่อยหอบ หมดเรี่ยวแรงจึงพากันนั่งพักแล้วพวกมันก็คิดขึ้นได้ว่า
สักพักใหญ่ๆ ในขณะที่พวกมันกำลังพักเพื่อให้หายเหนื่อย มันได้เหลือบไปเห็นฝูงแร้งบินร่อนไปมาเพื่อล่าหาอาหารกิน
สิงโต
สิงโต

ข้าคิดว่า พวกเราไม่ควรจะมาทะเลาะกันอีกต่อไปแล้วนะ

สิงโต
สิงโต

เราควรจะแบ่งกันกินน้ำกันกินดีกว่าไหม ยิ่งถ้ามาต่อสู้กันขนาดนี้คงต้องตาย

กลายเป็นอาหารของฝูงแร้งอย่างแน่นอน
แพะ
แพะ

ข้าก็ว่าอย่างนั้นล่ะดูสิเจ้าแร้งฝูงใหญ่บินร่อนเต็มไปหมดมันก็คงคิดว่าแถวนี้จะมีอาหารให้มันกินละสินะ

เมื่อเห็นดังนั้นแล้วทั้งสิงโตและเจ้าแพะก็หยุดการต่อสู้กันและแบ่งน้ำกินกันด้วยดี
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“จงพอใจกับการแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่กันและกันดีกว่าจะต่อสู้กันเพื่อให้เกิดความสูญเสีย”

มดจะขนอาหารมาเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึงเพื่อให้มีอาหารกินตลอดหน้าหนาวและเตือนให้ตั้กแตนเก็บอาหารไว้บ้างแต่ตั๊กแตนกลับคิดว่าพวกตนมีเสบียงเพียงพอแล้วไม่ต้องหาเพิ่มเติมอีก

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า

บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่ง โผบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข มันเตรียมพร้อมที่จะบินลงสู่พื้นดินเพื่อหาอาหารอย่างเช่นทุกวัน จนกระทั่ง มันสังเกตเห็นหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังดิ้นทุรนทุรายที่ใต้ต้นไม้ หมาป่าตัวน้อยดูเจ็บปวดอย่างมาก นกกระเรียนจึงเดินเข้าไปถามมันว่า

มีราชสีห์ ตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ มันอาศัยอยู่ในถ้ำใหญ่ในป่าลึก นิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของเจ้าราชสีห์ตัวนี้คือมันมักจะขี้เกียจออกล่าเหยื่อหาอาหาร มันจึงวางแผนแกล้งป่วยแล้วนอนซมอยู่ในถ้ำแล้วขอให้สัตว์ต่าง ๆมาเยี่ยมมันเพื่อที่จะได้จับสัตว์เหล่านั้นกินเป็นอาหารอย่างง่ายดาย

เจ้าลาตัวน้อยสีน้ำตาลเดินโซเซตรงมาเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ในสภาพเนื้อตัวมอมแมมซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลน ในช่วงของฤดูแล้งที่ไม่มีสายฝนโปรยปรายลงมาจากฟ้า แม้แต่หญ้าสักต้นก็หาได้หายาก หลังจากที่เจ้าลาน้อยไม่ได้กินอะไรมาหลายวันและแล้วมันก็พบกับคอกม้าซึ่งในนี้มีม้าสีขาวตัวใหญ่ยืนอยู่มันดูสูงสง่ามาก ดูแล้วช่างแตกต่างกันมากจากสภาพของเจ้าลาในตอนนี้

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเย็น ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีชายชาวนาคนหนึ่ง เขาจะมาที่ทุ่งนาอยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้มันช่างแปลกกว่าทุกวันที่ว่าเขาได้เดินมาพบกับงูตัวหนึ่ง งูตัวนั้นนอนขดและตัวแข็งทื่อเหมือนมันใกล้จะตายแล้ว อาจเป็นเพราะว่าอากาศที่แสนจะหนาวเหน็บนั่นเอง

มดตัวหนึ่งกำลังวิ่งอย่างคล่องแคล่วอยู่ท่ามกลางแสงแดดเพื่อหาอาหาร มันเจอกับดักแด้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ ดักแด้ขยับหางของมัน ซึ่งดึงดูดความสนใจของมดที่เพิ่งเห็นว่าดักแด้ยังมีชีวิตอยู่

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีปูกับงูซึ่งพวกมันเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานมากปูมีนิสัยซื่อตรงไม่เคยทรยศใครหรือทรยศงูเพื่อนรักเลย แต่งูกลับมีนิสัยคดโกง เจ้างูมักจะทรยศหักหลังเจ้าปูทุกครั้งหากมันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น สามารถที่จะทำประโยชน์ให้แก่มันได้เพียงผู้เดียว ซึ่งการกระทำของมันนั้น มักทำให้เจ้าปูได้รับความเดือดร้อนอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าปูจะพยายามตักเตือนให้งูเปลี่ยนนิสัยแต่เจ้างูก็ไม่เคยคิดที่จะกลับตัว