กบเลือกนาย

กบเลือกนาย

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกบฝูงใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในบึงน้ำกว้างอย่างมีความสุข ต่อมาในเช้าวันหนึ่งพวกกบเหล่านี้จึงปรึกษากันว่าพวกเราอยู่แบบนี้ด้วยกันมานานแล้วอยากจะหาเจ้านายหรือใครก็ได้เขาจะได้เป็นผู้นำและดูแลทุกข์สุข ช่วยปกครองดูแลพวก มันจึงได้รวมตัวกันและทำการร้องขอต่อเทวดาว่า

แนะนำตัวละคร
ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกบฝูงใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในบึงน้ำกว้างอย่างมีความสุข  ต่อมาในเช้าวันหนึ่งพวกกบเหล่านี้จึงปรึกษากันว่าพวกเราอยู่แบบนี้ด้วยกันมานานแล้วอยากจะหาเจ้านายหรือใครก็ได้เขาจะได้เป็นผู้นำและดูแลทุกข์สุข ช่วยปกครองดูแลพวก  มันจึงได้รวมตัวกันและทำการร้องขอต่อเทวดาว่า
กบ
กบ

เทวดาที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งป่าใหญ่พวกข้าต้องการเจ้านายที่จะมาปกครองพวกข้าขอเทวดาได้ส่งเจ้านายมาให้พวกข้าด้วยเถิด

เทวดา
เทวดา

ได้รอรับเจ้านายของเจ้าได้เลย

เทวดาจึงได้ส่งท่อนซุงไม้ใหญ่ลงมาตกลงที่กลางบึงของพวกกบ  พวกมันทั้งตื่นเต้นและดีใจกันมาก พากันมาห้อมล้อมท่อนซุงใหญ่นั้น
พอนานวันเข้าพวกกบรู้สึกถึงความเบื่อหน่ายเจ้านายของมัน นั่นก็คือท่อนซุงที่เทวดามอบให้เพาะเจ้านายได้แต่ลอยนิ่งๆให้แค่พวกมันเกาะอาศัยอยู่เท่านั้น พวกมันจึงรวมตัวกันใหม่เพื่อที่จะร้องขอต่อเทวดาว่า
กบ
กบ

เทวดาที่ศักดิ์สิทธิ์พวกข้าไม่ต้องการเจ้านายที่เอาแต่ลอยนิ่งๆไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆได้โปรดเถิดท่านส่งเจ้านายที่เก่งกว่านี้มาให้พวกเราด้วยเถิด

เทวดา
เทวดา

พวกเจ้าต้องการเจ้านายแบบไหนกันล่ะนี่เดี๋ยวข้าจะจัดให้สมใจเจ้าเลย

เทวดาจึงได้ส่งนกกระสาลงมาให้กับพวกกบ  เจ้านายของพวกมัน หรือนกกระสาตัวนั้น ได้ไล่จิกกบและกินมันทุกวันจนกบหายไปหายไปทำให้พวกกบที่เหลืออยู่ต่างพากันหวาดกลัวแล้วรวมตัวกันอีกครั้งเพื่ออ้อนวอน เทวดา
กบ
กบ

พวกข้าไม่ต้องการเจ้านายแบบนี้เจ้านายที่ไล่จิกกินพวกข้าจนล้มตายไปหมดได้โปรดส่งเจ้านายใหม่มาให้พวกข้าด้วยเถิดท่านเทวดา

เทวดา
เทวดา

พี่พวกเจ้าช่างไม่มีความรู้จักพอเอาเสียเลยเจ้านายแบบไหนที่เจ้าต้องการล่ะไม่ ข้าไม่ให้พวกเจ้าอีกแล้ว

เทวดา
เทวดา

จงอยู่กับเจ้านายนกกระสาต่อไปแล้วเทวดาก็หายตัวไปจนสุดท้ายจนสุดท้ายกบก็โดนนกกระสาจับกินจนหมดบึง



ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความต้องการที่ไม่รู้จักจบสิ้นอาจนำมาซึ่งภัยอันตรายได้ในภายหลังจงอยู่กับความพอดีและประมาณตน”

ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบทที่มีการเลี้ยงไก่เพื่อที่จะสามรถนำไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหารได้ และเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น

มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินมาด้วยความหิวเนื่องจากไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อให้มันกินเลย มันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้สังเกตว่าได้มีเจ้ากาดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นจิ้งจอกก็เห็นเนื้อที่ กาคาบไว้ ด้วยความฉลาดแกมเจ้าเล่ห์ของเจ้าจิ้งจอกมันจึงได้พูดขึ้นมาว่า สวัสดีแม่กาสุดสวย

กลุ่มนกใหญ่ได้เปิดศึกสงครามกับอสูรกายสัตว์ป่าทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันมาเป็นเวลาอันยาวนานนับ100ปี ทั้งสองต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งได้มีเจ้าค้างคาวที่เกิดไม่มั่นใจในฝีมือการสู้รบของแต่ละฝ่ายขึ้นมามันจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า

มีลาตัวหนึ่ง มันได้เดินทางผ่านมา แล้วบังเอิญพบกับหนังราชสีห์ที่นายพรานได้ตากทิ้งไว้ที่กระท่อมชายป่า มันจึงได้ขโมยมาคลุมตัวแล้วก็เดินเที่ยวเล่น แล้วก็ทำท่าทีองอาจราวกับเป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ บรรดาสัตว์ที่พบเห็นหนังราชสีห์ที่คลุมตัวเจ้าลาอยู่ ต่างก็เข้าใจว่ามันเป็นราชสีห์เจ้าป่าที่ออกล่าเหยื่อจริง ๆ เพราะมันดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน แล้วพวกมันก็พากันวิ่งหนีกระเจิงไปทั่ว ในขณะนั้นเองก็มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินทางมาพบเห็นพอดีแล้วมันก็ได้ยินเสียงที่มันไม่คิดว่าเคยได้ยินมาก่อน ก็คือเจ้่่าลาทำท่าและทำเสียงร้องคำรามเลียนแบบราชสีห์

กาลครั้งหนึ่งในป่าที่หนาทึบแห่งหนึ่ง ได้มีนกฮูกและช้างซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากอาศัยอยู่ ทั้งสองได้แบ่งปันความทุกข์ความสุขให้แก่กันและกัน จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่ง โผบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข มันเตรียมพร้อมที่จะบินลงสู่พื้นดินเพื่อหาอาหารอย่างเช่นทุกวัน จนกระทั่ง มันสังเกตเห็นหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังดิ้นทุรนทุรายที่ใต้ต้นไม้ หมาป่าตัวน้อยดูเจ็บปวดอย่างมาก นกกระเรียนจึงเดินเข้าไปถามมันว่า

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า