เช้าวันหนึ่งของฤดูฝนท่ามกลางอากาศที่สดใส มีมดตัวหนึ่ง มันกำลังวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน พร้อมกับการดมหาอาหารไปด้วย สักพักเจ้ามดก็เดินไปพบกับรังของตัวดักแด้ตัวหนึ่ง มันกำลังนอนอยู่ในฝัก มดสังเกตเห็นว่า ภายในฝักนั้น มีการขยับอยู่เป็นระยะ ๆ มันจึงเข้าไปส่องดูแล้วพูดว่า
มด
นี่คืออะไรกันนะ ข้าพึ่งเคยพบเคยเห็น
อ่อ มีดักแด้อยู่ข้างในฝักนี้เอง มดรำพึงกับตัวเอง พร้อมกับพูดด้วยเสียงอันดังว่า
มด
เจ้าช่างเป็นสัตว์ที่น่าสงสารเสียจริง เดินไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่ตะเกียดตะกายอยู่แต่ในฝัก
มด
ไม่เหมือนข้าที่วิ่งเล่นไปมาอย่างสนุกสนานอยากไปไหนก็ได้ไป มีชีวิตที่เป็นอิสระ
มดทั้งพูดไปและหัวเราะไป
มด
ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะไปวิ่งเล่นที่ต้นไม้สูงๆคงทำไม่ได้แน่นอน นอนอยู่ในฝักต่อไปเถอนะเจ้าดักแด้เอ๋ย
ดักแด้ได้ยินคำที่มดพูดทั้งหมด แต่มันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร
วันต่อมา เจ้ามดได้เดินเล่นและมาถึงยังรังดักแด้ที่เดิมที่มันเคยพบเมื่อครั้งก่อนและแล้วมันก็พบกับความว่างเปล่า ทันได้นั้น มีลมพัดมายกใหญ่ เกือบทำให้มันต้องปลิวไป โชคดีที่ยังเกาะใบไม้ไว้ได้ มันชำเรืองไปด้านหลัง พบว่าด้านหลังหลังของตัวเองนั้นเป็นผีเสื้อแสนสวยอยู่ตัวหนึ่ง
มด
โอว ปีกของเจ้าดูสวยงามยิ่งนัก
ผีเสื้อตัวนั้นจึงพูดขึ้นว่า
ผีเสื้อ
จำข้าได้ไหมหล่ะเจ้ามดน้อย ข้าคือดักแด้ที่เจ้าหัวเราะเยาะเมื่อวันก่อน
ผีเสื้อ
ดูสิ ข้าสามารถบินไปไหนต่อไหนได้ไกลและสามารถบินไปบนต้นไม้ได้ด้วยนะ
ผีเสื้อ
ไม่เหมือนเจ้า ที่มัวแต่ไต่ คลานไปทีละน้อยกว่าจะถึงจุดหมาย
พูดจบผีเสื้อก็ขยับปีกของมันอย่างแรงเพื่อบินไปยังที่อื่น แรงจากกระขยับปีกของเจ้าผีเสื้อนั้น ทำให้เจ้ามด ถึงกับล้มไถลไป
ไม่น่าเชื่อเลยว่า เจ้าผีเสื้อนั้น คือดักแด้ตัวน้อยที่ขยับตัวไมได้ในฝักตัวนั้น เจ้ามดรำพึงกับตัวเอง