แมวกับหนู

แมวกับหนู

ณ หมู่บ้าน ริมชายป่าแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งของชาวนา บ้านหลังนี้มักจะมีหนูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าของบ้านจึงได้นำแมวมาเลี้ยงไว้หลายตัวเ จ้าแมวเหล่านั้นได้วิ่งไล่จับหนูกินทุกวันจนจำนวนหนูในบ้านลดลงไปมากอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูทั้งหลายจึงได้ปรึกษากันว่า

แนะนำตัวละคร
ณ หมู่บ้าน ริมชายป่าแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งของชาวนา บ้านหลังนี้มักจะมีหนูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าของบ้านจึงได้นำแมวมาเลี้ยงไว้หลายตัว   อยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูทั้งหลายจึงได้ปรึกษากันว่า
หนู1
หนู1

เจ้าแมวพวกนั้นมันพยายามที่จะจับพรรคพวกของเรากินอยู่ทุกวัน จนพี่น้องเราลดหายตายจากไปก็ตั้งมาก

หนู2
หนู2

ไม่ได้การแน่นอนเราต้องบอกพรรคพวกเราว่าจะต้องไม่ลงไปยังห้องเก็บของชั้นล่างอีกไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องโดนจับกินหมดอย่างแน่นอน

ส่วนแมวทั้งหลายรู้สึกแปลกๆว่าทำไมไม่เห็นหนูออกมาวิ่งที่ห้องเก็บอาหารชั้นล่างเลย
แมว1
แมว1

มันเกิดอะไรขึ้นนะเจ้าหนุ่มพวกนั้นหายไปไหนหมด

มันจึงวางแผนกันว่าเราจะต้องวางแผนกับพวกหนูเหล่านั้นให้ได้ไม่รู้พวกมันคิดอะไรกันถึงได้หายไป
แมว2
แมว2

งั้นเราว่าวางแผนแกล้งนอนนิ่มๆแกล้งนอนนิ่งๆดีกว่าแล้วเราก็ซ่อนเล็บที่แหลมของเราไว้ทำให้เหมือนว่าพวกเราตายแล้วพวกหนูจะได้ตกใจและก็จะได้ออกมาหากินอย่างเดิม

ทันใดนั้นมีเจ้าหนูตัวหนึ่งแอบได้ยินแมวปรึกษากันพอดี
วันต่อมา พวกแมวทั้งหลายก็ได้ทำตามแผนการที่ได้วางแผนไว้ แต่ไม่เห็นมีหนูซักตัวออกมาให้เห็นเลย
นี่เจ้าพวกหนูมันหายไปไหนกันหมดนะ  หรือพวกเรากินพวกมันซะจนหมดไปแล้วจริงๆ
หนู1
หนู1

เจ้าแมวเจ้าเล่ห์พวกนี้อย่ามาทำแกล้งพวกข้าเลยข้ารู้หรอกว่าพวกเจ้ายังไม่ตายพวกข้าไม่หลงกลเจ้าอย่างแน่นอนฮ่าๆ

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนฉลาดย่อมไม่ประมาทและหลงกลอุบายของคนอื่นได้อย่างง่ายๆ”

ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบทที่มีการเลี้ยงไก่เพื่อที่จะสามรถนำไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหารได้ และเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น

ชายชราผู้มีความสามารถในการแยกแยะสิ่งมีชีวิตรวมถึงเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆเพียงแค่ใช้มือสัมผัสเท่านั้นเขาก็บอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตข้างหน้าเขาคือตัวอะไร

กาลครั้งหนึ่งในป่าที่หนาทึบแห่งหนึ่ง ได้มีนกฮูกและช้างซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากอาศัยอยู่ ทั้งสองได้แบ่งปันความทุกข์ความสุขให้แก่กันและกัน จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอเพียงแค่เราใช้สติในการตัดสินใจและมองหาทางออกอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีปูกับงูซึ่งพวกมันเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานมากปูมีนิสัยซื่อตรงไม่เคยทรยศใครหรือทรยศงูเพื่อนรักเลย แต่งูกลับมีนิสัยคดโกง เจ้างูมักจะทรยศหักหลังเจ้าปูทุกครั้งหากมันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น สามารถที่จะทำประโยชน์ให้แก่มันได้เพียงผู้เดียว ซึ่งการกระทำของมันนั้น มักทำให้เจ้าปูได้รับความเดือดร้อนอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าปูจะพยายามตักเตือนให้งูเปลี่ยนนิสัยแต่เจ้างูก็ไม่เคยคิดที่จะกลับตัว

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่ง โผบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข มันเตรียมพร้อมที่จะบินลงสู่พื้นดินเพื่อหาอาหารอย่างเช่นทุกวัน จนกระทั่ง มันสังเกตเห็นหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังดิ้นทุรนทุรายที่ใต้ต้นไม้ หมาป่าตัวน้อยดูเจ็บปวดอย่างมาก นกกระเรียนจึงเดินเข้าไปถามมันว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ป่าใหญ่ที่มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ มีหมีตัวหนึ่งเดินหาอาหารกิน ซึ่งหมีชื่นชอบผลไม้เป็นชีวิตจิตใจ หากได้พบกับต้นเบอร์รี่ มันจะกินจนเกลี้ยงไม่ให้เหลือ แต่วันนี้เบอร์รี่ที่มันชื่นชอบหมดเสียแล้ว มันจึงต้องเดินหาอาหารต่อไปจนได้มาพบกับรังผึ้งรวงใหญ่