สุนัขจิ้งจอกกับอีกา

สุนัขจิ้งจอกกับอีกา

ผู้แต่ง: ื By Nitans.com

มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินมาด้วยความหิวเนื่องจากไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อให้มันกินเลย มันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้สังเกตว่าได้มีเจ้ากาดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นจิ้งจอกก็เห็นเนื้อที่ กาคาบไว้ ด้วยความฉลาดแกมเจ้าเล่ห์ของเจ้าจิ้งจอกมันจึงได้พูดขึ้นมาว่า สวัสดีแม่กาสุดสวย

แนะนำตัวละคร
ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มีแมกไม้ใหญ่สวยงามรื่นตา มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินมาด้วยความหิวเนื่องจากไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อให้มันกินเลย มันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้สังเกตว่าได้มีเจ้ากาดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นจิ้งจอกก็เห็นเนื้อที่ กาคาบไว้  ด้วยความฉลาดแกมเจ้าเล่ห์ของเจ้าจิ้งจอกมันจึงได้พูดขึ้นมาว่า 
สุนัขจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอก

“สวัสดีแม่กาสุดสวย” จิ้งจอกเอ่ยทักทาย

 ได้ยินดังนั้นแม่กาจึงก้มลงมาดูต้นเสียง ก็พบกับจิ้งจอกที่กำลังเงยหน้ามองตนอยู่เช่นกัน 
สุนัขจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอก

แม่กาช่างเป็นกาที่สวยและงดงามมาก งดงามกว่าเหล่ากาใดๆในป่าใหญ่นี้ เท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา

 แม่กาได้ ยินดังนั้นก็หลงใหลกับคำยกยอนั้นทันทีและถึงกับตั้งใจฟังคำที่จิ้งจอกนั้นพูด แถมยังคิดภายในใจว่าตนเองทั้งสวยทั้งสง่างามมาก ตามคำที่จิ้งจอกบอก
สุนัขจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอก

“แม่กาเอ๋ยถ้าหากแม่กางดงามมีสง่าราสีอย่างนี้ ฉันเริ่มอยากจะรู้เสียแล้วว่าเสียงแม่กานั้นจะไพเราะเสนาะใจขนาดไหนกัน” จิ้งจอกกล่าวต่อ

แม่กายิ่งหลงคำยกยอนั้นเข้าไปใหญ่ ทั้งลุ่มหลงในตัวเองมากขึ้น แม่กาอ้าปากขึ้นเพื่อจะขับขาลบทเพลงอันไพเราะของตัวเอง ก้อนเนื้อที่แม่กาคาบอยู่ก็ตกลงสู่เบื้องล่างอย่างหน้าเสียดาย  ทันใดนั้นเจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มมุมปากก่อนจะรีบคาบก้อนเนื้อนั้นและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่พอรู้ตัวอีกทีแม่กาก็รู้เลยว่าตนโดนหลอกเสียแล้ว
อีกา
อีกา

ข้าโดนเจ้าสุนัขจิ้งจอกนั่นหลอกเหรอนี่ ข้านี่มันช่างโง่เขลาจริง ๆ

อีกา
อีกา

เนื้อที่แสนจะอร่อยอุตส่าหามา ไม่ได้กินเสียแล้ว เจ็บใจตัวเองนักเชียว

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การที่เราหลงเชื่อคำยกยอที่เกินจริงเข้าไปแต่เรายังหลงเชื่อนั้นเป็นสิ่งไม่ควร อย่าได้หลงเชื่อคำเหล่านั้น”

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น

มีชายนักเดินทางอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบพูดแต่ความจริง ส่วนอีกคนหนึ่งชอบพูดแต่คำโกหก พวกเขาเดินทางร่วมกันมาจนมาถึงดินแดนราชาลิงโดยบังเอิญ ที่เมืองของราชาลิงมีประเพณีอยู่ว่า หากมีคนมาเยือนที่เมืองแห่งราชาลิงแล้ว จะต้องนำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าท่ามกลางฝูงลิงข้าราชบริพารที่นั่งเรียงเป็นแถวเหมือนกับพวกมนุษย์ที่เข้าเฝ้าราชาของมนุษย์นั่นเองราชาลิงสั่งให้นำตัวชายทั้งสองมาพบ

ครั้งหนึ่ง บรรดาหนูในบ้านหลังหนึ่งต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน หนูหลายตัวเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที หนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า

ชายชราผู้มีความสามารถในการแยกแยะสิ่งมีชีวิตรวมถึงเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆเพียงแค่ใช้มือสัมผัสเท่านั้นเขาก็บอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตข้างหน้าเขาคือตัวอะไร

กลุ่มนกใหญ่ได้เปิดศึกสงครามกับอสูรกายสัตว์ป่าทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันมาเป็นเวลาอันยาวนานนับ100ปี ทั้งสองต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งได้มีเจ้าค้างคาวที่เกิดไม่มั่นใจในฝีมือการสู้รบของแต่ละฝ่ายขึ้นมามันจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า

มีราชสีห์ ตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ มันอาศัยอยู่ในถ้ำใหญ่ในป่าลึก นิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของเจ้าราชสีห์ตัวนี้คือมันมักจะขี้เกียจออกล่าเหยื่อหาอาหาร มันจึงวางแผนแกล้งป่วยแล้วนอนซมอยู่ในถ้ำแล้วขอให้สัตว์ต่าง ๆมาเยี่ยมมันเพื่อที่จะได้จับสัตว์เหล่านั้นกินเป็นอาหารอย่างง่ายดาย

มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเย็น ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีชายชาวนาคนหนึ่ง เขาจะมาที่ทุ่งนาอยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้มันช่างแปลกกว่าทุกวันที่ว่าเขาได้เดินมาพบกับงูตัวหนึ่ง งูตัวนั้นนอนขดและตัวแข็งทื่อเหมือนมันใกล้จะตายแล้ว อาจเป็นเพราะว่าอากาศที่แสนจะหนาวเหน็บนั่นเอง