ตัวตลกกับชาวบ้าน

ตัวตลกกับชาวบ้าน

ณ งานเทศกาลประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในงานเทศกาลนั้นได้มีการจัดการแสดงของตัวตลกด้วย ตัวตลกคนนี้ได้แสดงความสามารถมากมายเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมแต่มีการแสดงอยู่การแสดงหนึ่งที่ตัวตลกคนนี้ถนัดเป็นพิเศษ นั่น คือ การเลียนแบบเสียงของสัตว์ได้หลากหลายชนิด เขาได้โชว์การแสดง เลียนแบบเสียงของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ประทับใจเป็นอย่างมาก

แนะนำตัวละคร
   ณ งานเทศกาลประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในงานเทศกาลนั้นได้มีการจัดการแสดงของตัวตลกด้วย ตัวตลกคนนี้ได้แสดงความสามารถมากมายเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมแต่มีการแสดงอยู่การแสดงหนึ่งที่ตัวตลกคนนี้ถนัดเป็นพิเศษ นั่น คือ การเลียนแบบเสียงของสัตว์ได้หลากหลายชนิด เขาได้โชว์การแสดง เลียนแบบเสียงของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ประทับใจเป็นอย่างมาก
จนการแสดงได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายเขาจึงเลือกที่จะจบการแสดงด้วยการทำเสียง อี๊ดๆ เหมือนเสียงหมู เขาทำเสียงได้คล้ายเสียงหมูมากจนทำให้ผู้ชมที่ฟังนั้นเกิดคิดสงสัยและเริ่มมองหาว่าเขาได้เอาหมูไปซ่อนไว้ที่ไหนรึเปล่า  แต่แล้วก็มีชาวบ้านคนลุกขึ้นแล้วพูดว่า
ชาวบ้าน1
ชาวบ้าน1

นั่นมันเรียกว่าเสียงร้องของหมูอย่างงั้นรึ?

ชาวบ้าน2
ชาวบ้าน2

มันไม่เห็นเหมือนเสียงร้องของหมูเลยสักนิดเดียว ทำเป็นมาแสดงให้คนอื่นดู ช่างไม่อายเสียบ้างเลย

ชายตัวตลกรู้สึกเสียหน้าจากคำดูถูก จึงได้พูดขึ้นมาว่า
ตัวตลก
ตัวตลก

รอดูนะพรุ่งนี้ข้าจะแสดงได้พวกเจ้าเห็นว่าเสียงร้องของหมูที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร

ผู้ชมที่นั่งดูการแสดงของตัวตลกได้ยินดังนั้นก็ได้หัวเราะเยาะ จนเสียงระงมและพูดจาดูถูกชายตัวตลกคนนั้นพร้อมดูถูกว่าเขาจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร  สิ้นเสียงหัวเราะก็ได้มีผู้ชมคนหนึ่งพูดอีกทีว่า
ชาวบ้าน2
ชาวบ้าน2

ได้สิข้าจะรอดูว่าพรุ่งนี้เจ้าจะแสดงให้พวกข้าเห็นได้อย่างไร

ตัวตลก
ตัวตลก

ได้พวกท่านรอดูได้เลยพรุ่งนี้ข้าจะแสดงได้พวกท่านได้ดูแน่นอน!!!

วันถัดมาชาวบ้านก็ได้มาที่ซุ้มการแสดงของตัวตลกอีกครั้ง หลังจากที่ผู้ชมมาจนเยอะแล้วตัวตลกก็ไม่รีรอที่จะทำการแสดงไห้ให้ผู้ชมได้ดู เขาได้โน้มตัวลงพร้อมกับทำเสียง จี๊ดๆๆ….ออกมาอย่างน่ารังเกียจ
จนทำให้ผู้ชมที่นั่งดูอยู่นั้นไม่พอใจ ส่งเสียงโห่ร้องและขว้างปาสิ่งของใส่ตัวตลกผู้นั้นเพื่อให้เขาหยุดการแสดง
ชาวบ้าน1
ชาวบ้าน1

พวกเจ้าช่างโง่เขลาอะไรเช่นนี้!!

ชายตัวตลกได้ตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงพร้อมพูดต่ออีกว่า
ตัวตลก
ตัวตลก

ดูสิว่าพวกเจ้ากำลังไม่พอใจเรื่องอะไรกันอยู่ นี่มันเป็นเสียงของหมูจริงๆแล้วนะ

ว่าแล้ว เขาก็ได้ใช้มือของเขาชูลูกหมูตัวเล็กๆขึ้นชาวบ้านได้หยิกเข้าไปที่ใบหูของลูกหมูตัวนั้นด้วยความเจ็บนั้นจึงได้ทำให้ลูกหมูส่งเสียงร้องออกมา ผู้ชมที่นั่งดูอยู่นั้นก็เลยได้รู้ว่าเสียงหมูที่พวกเขาไม่พอใจนั้นมันคือเสียงของหมูจริงๆไม่ใช่เพียงแค่การแสดงของตัวตลก
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนบางคนนั้นมักจะชื่นชมแต่สิ่งลอกเลียนแบบแต่กลับไม่พอใจกับความเป็นจริงที่ตนเองได้พบเจอ”

ครั้งหนึ่ง บรรดาหนูในบ้านหลังหนึ่งต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน หนูหลายตัวเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที หนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า

มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเย็น ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีชายชาวนาคนหนึ่ง เขาจะมาที่ทุ่งนาอยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้มันช่างแปลกกว่าทุกวันที่ว่าเขาได้เดินมาพบกับงูตัวหนึ่ง งูตัวนั้นนอนขดและตัวแข็งทื่อเหมือนมันใกล้จะตายแล้ว อาจเป็นเพราะว่าอากาศที่แสนจะหนาวเหน็บนั่นเอง

หมากับไก่เป็นเพื่อนรักกันมานาน วันหนึ่ง สัตว์ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน เมื่อค่ำลงจึงแวะพักแรมที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไก่บินขึ้นไปนอนบนกิ่งไม้ ส่วนหมานอนที่โคนต้อนไม้ เมื่อฟ้าสางไก่ก็โก่งคอขันรับอรุณเป็นกิจวัตรอย่างเช่นทุกวัน

ณ บ้านชาวนาแห่งหนึ่ง ได้มีเจ้าแมวและครอบครัวขอหนูอาศัยอยู่ในบ้านชาวนาหลังเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่เจ้าแมวถูกเลี้ยงอย่างสุขสบายแต่พวกหนูต้องอาศัยอยู่อย่างหวาดกลัวเขี้ยวอันคมและกรงเล็บอันแหลมของเจ้าแมวที่ชาวนาเลี้ยงไว้มาตลอดเวลา

ลาตัวหนึ่งได้ยินเสียงที่ไพเราะของตั๊กแตนแล้วลาตัวนั้นจึงอยากจะมีเสียงไพเราะอย่างตั๊กแตนบ้าง หารู้ไหมว่ามันเปลี่ยนแปลงวิถีชิวิตเดิมของตน

ณ ป่าเขาที่มีลำธารใสสะอาดไหลผ่าน ลำธารแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญของผืนป่าแล้วนั้น ยังเป็นผืนน้ำที่ให้บรรดาสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายได้มาดื่มกิน

ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยว