ฝูงหมาป่ากับหนังวัว

ฝูงหมาป่ากับหนังวัว

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

แนะนำตัวละคร
มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ 
หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

หมาป่า1
หมาป่า1

น้ำลึกขนาดนี้เราคงกินหนังสัตว์พวกนั้นไม่ได้แน่ๆเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ

หมาป่า2
หมาป่า2

จริงอย่างที่เจ้าว่า มันช่างเป็นเรื่องที่ยากเสียเหลือเกิน ช่วยกันคิดสิพวกเรา ไม่งั้นมีหวังเราได้อดตายแน่

หมาป่าอีกตัวที่คิดเช่นเดียวกันกับหมาป่าตัวแรกได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับตะโกนถามหมาป่าตัวอื่นที่เหลือในฝูงออกไปว่า
หมาป่า1
หมาป่า1

มีใครสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าพวกเราจะทำอย่างไรถึงจะกินหนังสัตว์ที่จมอยู่ใต้แม่น้ำนี้ได้

หลังจากสิ้นสุดบทสนทนาก็ได้มีหมาป่าตัวหนึ่งได้ออกความคิดเห็นว่า
หมาป่า 3
หมาป่า 3

ทำไมเราไม่ช่วยกันดื่มน้ำในแม่น้ำนี้ให้หมดกันล่ะท่าเราทำเช่นนั้นละก็พวกเราก็จะสามรถกินหนังสัตว์ที่จมอยู่ใต้แม่น้ำนี้ได้อยู่แน่นอน

หลังจากที่หมาป่าในฝูงทุกตัวได้ฟังความคิดเห็นนี้แล้วพวกมันก็ตัดสินใจที่จะดื่มน้ำในแม่นี้ให้หมดว่าแล้วพวกมันก็ได้ก้มลงไปดื่มน้ำในแม่น้ำนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าทีจะทำได้แต่ไม่ว่าพวกมันจะดื่มน้ำเข้าไปเยอะสักเท่าไหร่น้ำในแม่น้ำก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
หมาป่า1
หมาป่า1

ใกล้แล้วพวกเรา สู้ๆ ความหวังอยู่ตรงหน้าแล้ว


จนกระทั่งพวกมันทยอยอิ่มไปทีละตัวๆแต่พวกก็ไม่ยอมแพ้พวกมันยังคิดที่จะดื่มน้ำในแม่น้ำไปเรื่อยๆให้หมดแต่เพราะพวกมันได้ดื่มน้ำมากจนเกินไปสุดท้ายพวกมันก็ได้ท้องแตกตายไปจนหมดก่อนที่พวกมันจะเอื้อมไปถึงหนังสัตว์เหล่านั้นได้

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“จงอย่าพยามทำอะไรที่มันเกินตัวมากจนเกินไปสุดท้ายการพยามนั้นมันอาจจะกลับเข้ามาทำร้ายตัวเราเองได้”

ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบทที่มีการเลี้ยงไก่เพื่อที่จะสามรถนำไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหารได้ และเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า

กาลครั้งหนึ่ง ณ บึงอันกว้างใหญ่ที่มีสิงสาราสัตว์นานาพันธุ์อาศัยอยู่ มีกบสองตัวเป็นเพื่อนรักกัน กบตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบึงแห่งนี้ ไม่ว่าจะฤดูใดก็มีน้ำเต็มปรี่ตลอดปี และมีเพื่อนพ้องกบอีกหลายตัวที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนกบอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนรักของมันอาศัยอยู่ในลำห้วยเล็ก ๆ ที่ชาวไร่มักจะใช้เส้นทางนี้ในการลากเกวียน

หมากับไก่เป็นเพื่อนรักกันมานาน วันหนึ่ง สัตว์ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน เมื่อค่ำลงจึงแวะพักแรมที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไก่บินขึ้นไปนอนบนกิ่งไม้ ส่วนหมานอนที่โคนต้อนไม้ เมื่อฟ้าสางไก่ก็โก่งคอขันรับอรุณเป็นกิจวัตรอย่างเช่นทุกวัน

ณ หมู่บ้าน ริมชายป่าแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งของชาวนา บ้านหลังนี้มักจะมีหนูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าของบ้านจึงได้นำแมวมาเลี้ยงไว้หลายตัวเ จ้าแมวเหล่านั้นได้วิ่งไล่จับหนูกินทุกวันจนจำนวนหนูในบ้านลดลงไปมากอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูทั้งหลายจึงได้ปรึกษากันว่า

มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี

ณ บึงน้ำในป่าแห่งหนึ่ง บึงแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีพืชที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีต้นโอ๊กใหญ่ขึ้นแผ่กิ่งก้านอยู่ริมฝั่งและมีต้นอ้อขั้นอยู่ในน้ำ ทั้งสองมักจะเห็นกันและกันอยู่ทุกวัน

ณ บึงน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในแถบชุมชนที่มีปลานานาพันธุ์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะบึงแห่งนี้มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านจึงมักจะมาหาอาหารในบริเวณนี้อยู่เสมอ