วัวกระทิงกับแพะ

วัวกระทิงกับแพะ

ที่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ แห่งหนึ่งได้มีเจ้าวัวกระทิงตัวใหญ่ มันกำลังวิ่งหนีสิงโตที่กำลังไล่ล่ามันอยู่ ระหว่างที่เจ้าวัวกระทิงกำลังวิ่งหนีสิงโตอยู่นั้นสายตามันก็ได้มองไปเห็นถ้ำหินเข้า มันจึงได้วิ่งเข้าไปหลบที่ถ้ำนั้นเพื่อที่จะซ่อนตัวจากสิงโต มันเดินเข้าไปภายในถ้ำนั้น จึงได้พบกับแกะตัวหนึ่งเข้า เจ้าแกะได้เข้ามาจับจองเป็นเจ้าของก่อนมันแล้ว

แนะนำตัวละคร
  ที่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ได้มีเจ้าวัวกระทิงตัวใหญ่ มันกำลังวิ่งหนีสิงโตที่กำลังไล่ล่ามันอยู่ ระหว่างที่เจ้าวัวกระทิงกำลังวิ่งหนีสิงโตอยู่นั้นสายตามันก็ได้มองไปเห็นถ้ำหินเข้า มันจึงได้วิ่งเข้าไปหลบที่ถ้ำนั้นเพื่อที่จะซ่อนตัวจากสิงโต  มันเดินเข้าไปภายในถ้ำนั้น จึงได้พบกับแพะตัวหนึ่งเข้า เจ้าแพะได้เข้ามาจับจองเป็นเจ้าของก่อนมันเสียแล้ว
ทันทีที่เจ้าวัวกระทิงเข้าไปหลบในถ้ำนั้น เจ้าแพะก็ได้พูดถามกับเจ้าวัวกระทิงออกไปว่า

แพะ
แพะ

เจ้ากล้าดียังไงวิ่งเข้ามาในถ้ำของข้าทั้งๆที่ข้ายังไม่ได้รับอนุญาต!!

แพะตัวนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก วัวกระทิงที่เห็นดังนั้นจึงได้พูด ขึ้นว่า 
วัวกระทิง
วัวกระทิง

ข้าเข้ามาหลบเจ้าสิงโตตัวนั้น มันกำลังไล่ล่าข้าอยู่

วัวกระทิง
วัวกระทิง

ข้าขอหลบภัยในถ้ำตรงนี้ก่อนได้ไหม เดี๋ยวข้าก็ไป

เจ้าแพะที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งไม่พอใจมันจึงได้พุ่งเข้าชนวัวกระทิงตัวนั้นสุดแรงและชนกับเขาของเจ้ากระทิงโดยทันที ทำให้มันบาดเจ็บเล็กน้อย
เจ้าวัวกระทิงเห็นดังนั้นก็ได้พูดว่า 
วัวกระทิง
วัวกระทิง

เจ้าจะทำร้ายข้าอย่างไรก็ได้ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก ข้ากลัวเจ้าสิงโตตัวนั้นต่างหาก รอให้เจ้าสิงโตตัวนั้นผ่านไปเสียก่อนเถอะ เดียวข้าจะจัดการกับเจ้าทีหลัง 

วัวกระทิง
วัวกระทิง

ช่างไม่รู้เรื่องเลย แทนที่จะอยู่เฉยๆรักษาตัวเองให้รอดจากศัตรู

วัวกระทิง
วัวกระทิง

แล้วข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าพละกำลังระหว่างเจ้ากับข้าใครจะน่าเกรงกลัวกว่ากัน เจ้าจะลองไหมละ

หลังสิ้นบทสนทนานั้นเจ้าแพะก็ไม่กล้าที่จะทำร้ายเจ้าวัวกระทิงอีกเลย
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การเอาเปรียบคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนั้นเป็นสิ่งที่คนจิตใจดีเขาไม่ทำกัน”

ณ หมู่บ้าน ริมชายป่าแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งของชาวนา บ้านหลังนี้มักจะมีหนูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าของบ้านจึงได้นำแมวมาเลี้ยงไว้หลายตัวเ จ้าแมวเหล่านั้นได้วิ่งไล่จับหนูกินทุกวันจนจำนวนหนูในบ้านลดลงไปมากอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูทั้งหลายจึงได้ปรึกษากันว่า

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

กาตัวหนึ่งบินร่อนหาอาหารแถบชายฝั่งทะเล สายตาของมันพยายามมองหาอาหารสำหรับวันนี้ มันเหลือบเห็นหอยกาบตัวใหญ่บนหาดทรายจึงโฉบลงมาหมายจะจิกกิน

ควายหนุ่มตัวหนึ่งเห็นควายแก่อีกตัวทำงานหนักทุกวัน ในขณะที่ตัวมันสุขสบาย ไม่เคยทำอะไรเลย ก็รู้สึกเวทนา มันจึงบอกความแก่ว่า ท่านแก่ป่านนี้แล้วยังจะทำงานหนักอยู่อีก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น

มีนักธนูฝีมือดีอยู่คนหนึ่งเขาได้ออกเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อที่จะล่าสัตว์แต่ด้วยความเก่งกาจและความหน้าแกรงขามของเขานั้นทันทีที่เขาได้ย่างเท้าก้าวเขาไปในป่าได้ทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวพากันแตกตื่นวิ่งหนีเขาเพื่อเอาชีวิตรอดไปกันหมดในเวลาที่เขาเข้าใกล้พวกมัน

มีราชสีห์ ตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ มันอาศัยอยู่ในถ้ำใหญ่ในป่าลึก นิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของเจ้าราชสีห์ตัวนี้คือมันมักจะขี้เกียจออกล่าเหยื่อหาอาหาร มันจึงวางแผนแกล้งป่วยแล้วนอนซมอยู่ในถ้ำแล้วขอให้สัตว์ต่าง ๆมาเยี่ยมมันเพื่อที่จะได้จับสัตว์เหล่านั้นกินเป็นอาหารอย่างง่ายดาย

ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยว