เด็กชายกับถั่วอบ

เด็กชายกับถั่วอบ

ณ บ้านหลังเล็กๆแถวชนบทแห่งหนึ่งมีเด็กชายที่อาศัยอยู่กับยายสองคน เด็กชายคนนี้มีนิสัยที่ดื้อเขาซุกซนและเขายังมีของโปรดที่เขาชอบกินมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือถั่วอบเกลือฝีมือคุณยายของเขานั่นเอง วันหนึ่งคุณยายจึงได้ทำถั่วอบให้หลานชายกินคุณยายได้ใส่ถั่วไว้ในเหยือกแต่ว่าคุณยายยังขาดเกลือที่จะนำมาใส่ถั่วอบ คุณยายจึงต้องออกไปซื้อเกลือที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้าน หลังจากที่คุณยายเตรียมตะกร้าใส่ของเสร็จจึงบอกหลานชายว่า

แนะนำตัวละคร
ณ บ้านหลังเล็กๆแถวชนบทแห่งหนึ่งมีเด็กชายที่อาศัยอยู่กับยายสองคน เด็กชายคนนี้มีนิสัยที่ดื้อเขาซุกซนและเขายังมีของโปรดที่เขาชอบกินมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือถั่วอบเกลือฝีมือคุณยายของเขานั่นเอง วันหนึ่งคุณยายจึงได้ทำถั่วอบให้หลานชายกินคุณยายได้ใส่ถั่วไว้ในเหยือกแต่ว่าคุณยายยังขาดเกลือที่จะนำมาใส่ถั่วอบ คุณยายจึงต้องออกไปซื้อเกลือที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้าน 
หลังจากที่คุณยายเตรียมตะกร้าใส่ของเสร็จจึงบอกหลานชายว่า
ยาย
ยาย

ยายจะออกไปซื้อเกลือแปปนึงนะ

หลังจากที่หลายชายได้ยินดังนั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคุณยายกำลังจะทำของโปรดที่เขาชอบให้เขากินอย่างแน่นอนเขาจึงได้วิ่งเข้าไปในครัวอย่างตื่นเต้นพร้อมกับสายตาที่มองหาถั่วอบของเขาที่คุณยายทำไว้และเขาก็ได้พบเข้ากับโถใบใหญ่ที่คุณยายใส่ถั่วอบเอาไว้เขาจึงได้เอ่ยถามคุณยายออกไปว่า
เด็กชาย
เด็กชาย

ผมขอชิมถั่วในโถที่ยายใส่ไว้ได้ไหมครับ

ยาย
ยาย

ได้สิจ๊ะแต่อย่าเยอะนะยายยังปรุงไม่เสร็จเลย ยายจะออกไปซื้อเกลือแปปเดียว

เด็กชาย
เด็กชาย

ครับคุณยาย ผมจะรอคุณยายกลับมาและกินถั่วอบอร่อยๆครับ

หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จแล้วหลานชายก็ได้คว้าเอาโถใบนั้นมาใกล้ๆเขาพร้อมกับค่อยๆล่วงมือลงไปหยิบเม็ดถั่วทีละเม็ดๆอย่างช้าๆหลังจากที่เขาได้หยิบกินถั่วไปเรื่อยๆเข้าก็นึกขึ้นได้ว่าแทนที่เขาจะหยิบกินถั่วทีละเม็ดทำไมเขาไม่ใช้มือของเขากำถั่วขึ้นมาให้ได้เยอะๆในครั้งเดียวแทนล่ะ
หลังจากที่เขาคิดได้ดังนั้นเด็กชายก็ได้ล้วงมือลงไปในโถอีกครั้ง พร้อมกับใช้มือของเขากำถั่วขึ้นมาให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้แต่เมื่อถึงตอนที่เขาจะดึงมือออกนั้นด้วยขนาดปากของโถแก้วที่เล็กเกินไปทำให้มือของเด็กชายที่ในมือเต็มไปด้วยเมล็ดถั่วไม่สามารถนำออกมาจากโถแก้วได้
เด็กชายทำอะไรไม่ได้เขาจึงได้นั่งร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้าและความผิดหวังอยู่ตรงนั้น
จนกระทั่งคุณยายของเขาได้กลับมาคุณยายที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของหลานจึงได้รีบวิ่งเข้ามาดูคุณยายได้เห็นหลานของเขาร้องให้เพราะมือติดอยู่โหลแก้ว
จึงได้พูดขึ้นว่า
ยาย
ยาย

ทำไมหลานไม่ค่อยๆหยิบกินทีละเม็ดล่ะ

เด็กชาย
เด็กชาย

ไม่ครับคุณยายผมอยากที่จะกินถั่วให้ได้เยอะๆ

ยาย
ยาย

ทำไมหลานไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีแล้วปล่อยถั่วออกจากมือแล้วค่อยๆหยิบกินทีละเม็ดจนอิ่มแทนเพียงแค่นี้หลานก็จะเอามือออกจากโถได้แล้วนะ

หลานชายได้ยินดังนั้นจึงได้ปล่อยถั่วออกจากมือและทำให้เขานำมือออกจากโถได้ที่สุด
เด็กชาย
เด็กชาย

ต่อไปผมจะไม่ตะกละกินแล้วครับยาย จะระวังๆให้มากครับ ฮือๆ

แล้วเด็กชายก็วิ่งไปกอดยายด้วยทั้งเจ็บและสำนึกผิด
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“อย่าฝืนตัวเองเพื่อการพยามเพียงครั้งเดียวแต่เราควรทำมันซ้ำๆอีกครั้งไปเรื่อยๆจนมันสำเร็จในที่สุด”

กาตัวหนึ่งบินร่อนหาอาหารแถบชายฝั่งทะเล สายตาของมันพยายามมองหาอาหารสำหรับวันนี้ มันเหลือบเห็นหอยกาบตัวใหญ่บนหาดทรายจึงโฉบลงมาหมายจะจิกกิน

ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยว

ณ งานเทศกาลประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในงานเทศกาลนั้นได้มีการจัดการแสดงของตัวตลกด้วย ตัวตลกคนนี้ได้แสดงความสามารถมากมายเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมแต่มีการแสดงอยู่การแสดงหนึ่งที่ตัวตลกคนนี้ถนัดเป็นพิเศษ นั่น คือ การเลียนแบบเสียงของสัตว์ได้หลากหลายชนิด เขาได้โชว์การแสดง เลียนแบบเสียงของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ประทับใจเป็นอย่างมาก

กลุ่มนกใหญ่ได้เปิดศึกสงครามกับอสูรกายสัตว์ป่าทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันมาเป็นเวลาอันยาวนานนับ100ปี ทั้งสองต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งได้มีเจ้าค้างคาวที่เกิดไม่มั่นใจในฝีมือการสู้รบของแต่ละฝ่ายขึ้นมามันจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า

แมวตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองเพื่อหาอาหารกิน ตัวมันเริ่มผอมกะหร่องเพราะไม่มีอาหารกินมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมันไปพบกับแม่ไก่ตัวหนึ่งที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้เป็นแม่พันธุ์ เจ้าแมวจึงมองไก่ตัวนั้นด้วยความหิวกระหาย

ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง

ณ หมู่บ้าน ริมชายป่าแห่งหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งของชาวนา บ้านหลังนี้มักจะมีหนูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเจ้าของบ้านจึงได้นำแมวมาเลี้ยงไว้หลายตัวเ จ้าแมวเหล่านั้นได้วิ่งไล่จับหนูกินทุกวันจนจำนวนหนูในบ้านลดลงไปมากอยู่มาวันหนึ่งเจ้าหนูทั้งหลายจึงได้ปรึกษากันว่า