กิ่งไม้หนึ่งมัด

กิ่งไม้หนึ่งมัด

ณ กระท่อมเล็กๆท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนประกอบไปด้วย พ่อ ลูกชายคนโต ลูกชายคนกลาง และ ลูกชายคนเล็ก วันหนึ่งพ่อของพวกเขาได้ล้มป่วยลงอย่างกระทันหันและด้วยความชราของผู้เป็นบิดานั้นทำให้เขารับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าตนจะอยู่ดูแลลูกได้อีกไม่นานเขาเลยตัดสินใจที่จะเรียกลูกชายทั้งสามของเขามาอยู่รอบๆตัวของเขาเพื่อที่จะพูดสั่งเสียก่อนที่เขาจะจากไปหลังจากที่ลูกชายทั้งสามของเขามาครบแล้วผู้เป็นพ่อก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยกับลูกชายทั้งสามของเขาว่า

แนะนำตัวละคร
ณ กระท่อมเล็กๆท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนประกอบไปด้วย พ่อ ลูกชายคนโต ลูกชายคนกลาง และ ลูกชายคนเล็ก 
วันหนึ่งพ่อของพวกเขาได้ล้มป่วยลงอย่างกระทันหันและด้วยความชราของผู้เป็นบิดานั้นทำให้เขารับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าตนจะอยู่ดูแลลูกได้อีกไม่นานเขาเลยตัดสินใจที่จะเรียกลูกชายทั้งสามของเขามาอยู่รอบๆตัวของเขาเพื่อที่จะพูดสั่งเสียก่อนที่เขาจะจากไปหลังจากที่ลูกชายทั้งสามของเขามาครบแล้วผู้เป็นพ่อก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยกับลูกชายทั้งสามของเขาว่า
พ่อ
พ่อ

พวกเจ้าจงไปหากิ่งไม้มาหลายๆกิ่งแล้วนำมันมามัดรวมกันให้พ่อ

ลูกชายทั้งสามที่ได้ยินดังนั้นก็ได้พากันออกไปหากิ่งไม้โดยทันทีและนำมันมามัดรวมกันตามที่พ่อของตนได้กล่าว
ลูกชายเล็ก
ลูกชายเล็ก

นี่พ่อเราคิดจะบอกอะไรกับพวกเรากันนะพี่

ลูกชายคนกลาง
ลูกชายคนกลาง

ไปทำตามที่พ่อบอกกันเถอะนะ ไม่ต้องสงสัยอะไรหรอก

แล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปหากิ่งไม้ตามที่พ่อได้บอกไว้
ลูกชายคนโต
ลูกชายคนโต

นี่ครับกิ่งไม้หนึ่งมัดที่พ่อบอกให้พวกข้าไปหามา

พ่อเห็นดังนั้นจึงได้เอ่ยขึ้นอีกว่า
พ่อ
พ่อ

ทีนี้พวกเจ้าทั้งสามจงผลัดกันหักกิ่งไม้มัดนี้ให้พ่อดูทีซิ

ลูกชายทั้งสามได้ยินคำที่พ่อตนบอกดังนั้นก็ได้ผลัดกันหักกิ่งไม้มัดนี้ที่ละคนๆจนครบทั้งสามคนแต่ก็ไม่มีลูกคนไหนสามารถหักกิ่งไม้มัดนี้ได้เลยพ่อที่เห็นดังนั้นก็ได้เอ่ยกับลูกชายทั้งสามไปอีกว่า
พ่อ
พ่อ

ทีนี้พวกเจ้าลองดึงกิ่งไม้ออกมาคนละ 1 กิ่งแล้วลองหักมันดูซิ

ลูกชายทั้งสามจึงได้ดึงกิ่งไม้ออกมาคนละ 1 กิ่งและลองหักดูพวกเขาพบว่ากิ่งไม้นั้นได้หักออกจากกันได้อย่างง่ายดายต่างจาการหักกิ่งไม้ที่มัดรวมกันเหมือนตอนแรกที่พวกเขาได้หัก
พ่อ
พ่อ

ทีนี้พวกเจ้าเข้าใจในสิ่งที่พ่อจะสอนแล้วหรือยังกิ่งไม้ 1 กิ่งเปรียบเหมือนพวกเจ้า1คน

พ่อ
พ่อ

หากพวกเจ้าแตกแยกไม่สามัคคีกันก็ง่ายต่อการที่จะโดนทำร้ายหรือโดนหักหลัง

พ่อ
พ่อ

แต่หากพวกเจ้ารักและสามัคคีกันเหมือนดั่งกิ่งไม้มัดแรกก็จะไม่มีใครที่จะสามารถเข้ามาทำร้ายพวกเจ้าทั้งสามได้

ลูกชายคนโต
ลูกชายคนโต

ครับพ่อ พวกเราจะรักสามัคคีกันดังคำที่พ่อไว้สั่งเสียไว้ให้ได้ครับ

ลูกชายคนกลาง
ลูกชายคนกลาง

ครับพ่อพวกเราจะสามัคคีกันให้มาก ๆครับ

ลูกชายเล็ก
ลูกชายเล็ก

ผมจะรักและเคารพพี่ๆ และสามัคคีกันครับพ่อ

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความสามัคคีนั้นคือพลังที่ยิ่งใหญ่หากเมื่อใดที่เราแตกแยกไม่สามัคคีกันก็ง่ายต่อการที่จะโดยปองร้ายได้”

ที่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ แห่งหนึ่งได้มีเจ้าวัวกระทิงตัวใหญ่ มันกำลังวิ่งหนีสิงโตที่กำลังไล่ล่ามันอยู่ ระหว่างที่เจ้าวัวกระทิงกำลังวิ่งหนีสิงโตอยู่นั้นสายตามันก็ได้มองไปเห็นถ้ำหินเข้า มันจึงได้วิ่งเข้าไปหลบที่ถ้ำนั้นเพื่อที่จะซ่อนตัวจากสิงโต มันเดินเข้าไปภายในถ้ำนั้น จึงได้พบกับแกะตัวหนึ่งเข้า เจ้าแกะได้เข้ามาจับจองเป็นเจ้าของก่อนมันแล้ว

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอเพียงแค่เราใช้สติในการตัดสินใจและมองหาทางออกอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้

แมลงวันฝูงใหญ่โผบินผ่านตึกรามบ้านช่องเพื่อที่จะหาอาหารประทังชีวิต บางฝูงเลือกที่จะตอมอาหารจานโปรด บางฝูงเลือกที่จะมองหาเศษอาหารข้างถนน แต่มีแมลงวันฝูงหนึ่งที่บินผ่านบ้านหลังเล็ก พวกมันสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร แมลงวันตัวที่หนึ่งจึงเรียกเพื่อน ๆ ของมันทันที

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีปูกับงูซึ่งพวกมันเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานมากปูมีนิสัยซื่อตรงไม่เคยทรยศใครหรือทรยศงูเพื่อนรักเลย แต่งูกลับมีนิสัยคดโกง เจ้างูมักจะทรยศหักหลังเจ้าปูทุกครั้งหากมันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น สามารถที่จะทำประโยชน์ให้แก่มันได้เพียงผู้เดียว ซึ่งการกระทำของมันนั้น มักทำให้เจ้าปูได้รับความเดือดร้อนอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าปูจะพยายามตักเตือนให้งูเปลี่ยนนิสัยแต่เจ้างูก็ไม่เคยคิดที่จะกลับตัว

หนูเเก่ตัวหนึ่งเดินทางเเรมรอนมาเป็นเวลานานเพื่อที่จะหาอาหารกลับไปยังรังของมันที่อยู่ในเขตชนบท แต่มันกลับต้องหยุดการเดินทางลงเพราะมีลำธารขนาดใหญ่ตัดเส้นทางของมัน

ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเขามีอาชีพเป็นนายพรานเขาได้ออกล่าหาสัตว์เพื่อที่จะเป็นอาหารอยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งชายผู้นี้ได้จับนกกระทาได้เขาจึงได้นำมันไปเลี้ยงไว้ในเล้าของไก่ชนของตนเอง