หมาป่ากับลูกแกะ

หมาป่ากับลูกแกะ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ได้มีหมาป่าตัวหนึ่ง มันเดินทางเข้ามาในป่าใหญ่จนมาถึงลำธารเจ้าหมาป่ามองเห็นลูกแกะตัวหนึ่ง ลูกแกะตัวนั้นมันกำลังก้มดื่มน้ำอยู่ที่ปลายลำธาร

แนะนำตัวละคร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ได้มีหมาป่าตัวหนึ่ง มันเดินทางเข้ามาในป่าใหญ่จนมาถึงลำธารเจ้าหมาป่ามองเห็นลูกแกะตัวหนึ่ง ลูกแกะตัวนั้นมันกำลังก้มดื่มน้ำอยู่ที่ปลายลำธาร
หมาป่า
หมาป่า

อาหารของข้าอยู่ไม่ใกล้ๆนี่เองข้าจะต้องหาคนอุบายกินเจ้าเป็นอาหารให้ได้

หมาป่าจึงได้ทำอุบาย โดยการแกล้งโมโหแล้วตวาดออกไปอย่างเสียงดังว่า
หมาป่า
หมาป่า

นี่เจ้าลูกแกะเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงเดินลงไปทำให้น้ำขุ่นจนข้าไม่สามารถที่จะกินน้ำได้

ลูกแกะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวมันไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้เพียงแค่ตอบโต้ไปว่า
ลูกแกะ
ลูกแกะ

คงไม่ใช่ข้าหรอกท่านหมาป่าเพราะข้าดื่มน้ำอยู่ที่ปลายลำธารจะไปทำให้น้ำขุ่นได้อย่างไรกัน

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจ้าหัวป่าก็รู้สึกเสียหน้าแต่ก็ยังที่จะอยากเอาชนะลูกแกะให้จงได้
หมาป่า
หมาป่า

ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้ทำให้น้ำขุ่นก็ช่างแต่ข้าได้ยินมาว่าเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เจ้าเคยพูดถึงข้าไว้อย่างเสียหายๆหลายครั้งใช่ไหม

ลูกแกะ
ลูกแกะ

เมื่อ 6 เดือนก่อนอย่างนั้นรึตอนนั้นข้ายังไม่เกิดเลยแล้วข้าจะพูดถึงท่านเสียหายได้อย่างไร

หมาป่ารู้สึกเสียหน้าอีกครั้งแต่มันก็พยายามที่จะผ่านเพื่อที่จะเอาชนะลูกแกะให้จงได้
หมาป่า
หมาป่า

ถ้าอย่างนั้นคงต้องเป็นพ่อและแม่ของเจ้าแน่ๆที่พูดที่พูดให้ร้ายข้าเพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องชดใช้แทนพ่อกับแม่ของเจ้าเจ้าแกะ

ลูกแกะไม่ทันได้พูดอะไรต่อมันก็รีบวิ่งหนีออกไปจากลำธารทันที เพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายทีจะเกิดขึ้นกับตนเอง 
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนพาลย่อมจะหาเรื่องกล่าวร้ายผู้อื่นอยู่อย่างเสมอแม้ผู้อื่นนั้นจะไม่มีความผิดก็ตาม”

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินอย่างซุ่มซ่ามและพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่ดูแล้วลึกมาก มันพยายามที่จะตะเกียดตะกายตัวเองเพื่อที่จะเอื้อมให้ถึงและดันตัวมันเองออกมาให้ได้

ควายหนุ่มตัวหนึ่งเห็นควายแก่อีกตัวทำงานหนักทุกวัน ในขณะที่ตัวมันสุขสบาย ไม่เคยทำอะไรเลย ก็รู้สึกเวทนา มันจึงบอกความแก่ว่า ท่านแก่ป่านนี้แล้วยังจะทำงานหนักอยู่อีก

มีนักธนูฝีมือดีอยู่คนหนึ่งเขาได้ออกเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อที่จะล่าสัตว์แต่ด้วยความเก่งกาจและความหน้าแกรงขามของเขานั้นทันทีที่เขาได้ย่างเท้าก้าวเขาไปในป่าได้ทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวพากันแตกตื่นวิ่งหนีเขาเพื่อเอาชีวิตรอดไปกันหมดในเวลาที่เขาเข้าใกล้พวกมัน

วันหนึ่งในฤดูร้อนที่แสนจะแห้งแล้งและก็อบอ้าว สิงโตและแพะต่างก็เดินหาแหล่งน้ำเพื่อที่พวกมันจะดื่มและดับกระหาย จนพวกมันเดินมาพบกับหนองน้ำแห่งหนึ่งแต่หนองน้ำแห่งนี้ไม่มีน้ำอยู่เลย มันช่างดูแห้งขอดเหลือเกิน สิงโตและแพะต่างทะเลาะกันถกเถียงกันเพื่อที่จะแย่งกันกินน้ำจนทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกบฝูงใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในบึงน้ำกว้างอย่างมีความสุข ต่อมาในเช้าวันหนึ่งพวกกบเหล่านี้จึงปรึกษากันว่าพวกเราอยู่แบบนี้ด้วยกันมานานแล้วอยากจะหาเจ้านายหรือใครก็ได้เขาจะได้เป็นผู้นำและดูแลทุกข์สุข ช่วยปกครองดูแลพวก มันจึงได้รวมตัวกันและทำการร้องขอต่อเทวดาว่า

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบาย ราชสีห์ตัวใหญ่ มองดูแล้วช่างสมกับเป็นเจ้าแห่งป่า น่าเกรงขามยิ่งนัก มันกำลังนอนหลับนิ่งเงียบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีเจ้าหนูตัวน้อย ได้ออกมาวิ่งเล่นหาอาหารกินในบริเวณ