ลาและตัํกแตน

ลาและตัํกแตน

ลาตัวหนึ่งได้ยินเสียงที่ไพเราะของตั๊กแตนแล้วลาตัวนั้นจึงอยากจะมีเสียงไพเราะอย่างตั๊กแตนบ้าง หารู้ไหมว่ามันเปลี่ยนแปลงวิถีชิวิตเดิมของตน

227 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
มีเจ้าลาตัวหนึ่งมันได้เดินลัดเลาะหาเล็มใบหญ้ามาตามป่าเขาลำเนาไพร จนมาถึงลำธารแห่งหนึ่งดูแล้วมันช่างดูร่มรื่นยิ่งนัก และตั้งใจจะนอนพักให้หายเหนื่อยสักหน่อย ทันได้นั้น มันได้ยินเสียงอันไพเราะดังมาจากในป่า
ลา
ลา

นี่มันเสียงอะไร ของใครกันนะ ทำไมมันช่างไพเราะขนาดนี้

เจ้าลาเดินตามไปยังต้นตอของเสียงก่อนจะพบกับตั๊กแตนตัวเล็กที่กำลังบรรเลงเสียงเพลง เจ้าลาไม่รอช้ารีบเข้าไปหาเจ้าของเสียงในทันที เจ้าลาจึงได้เอ่ยถามตั๊กแตนว่า
ลา
ลา

เจ้าตั๊กแตนทำไมเจ้าถึงได้มีน้ำเสียงอันไพเราะอย่างนี้เหรอจ๊ะ

ตั๊กแตน
ตั๊กแตน

ฉันกินน้ำค้างเป็นอาหารทุกเช้านะ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าลาก็ครุ่นคิดในใจว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ลา
ลา

เอาละ ข้าจะต้องทำตามเสียแล้วละ เผื่อเสียงของข้าจะไพเราะเหมือนเจ้าตั๊กแตนบ้าง

ตั้งแต่วันนั้นเจ้าลาก็คอยเลียน้ำค้างตามใบไม้ใบหญ้าทุกเช้า เพื่อหวังว่าตัวเองจะมีเสียงอันไพเราะให้ได้ หารู้ไม่ว่า มันไม่สัมฤทธิ์ผลใด ๆ
ลา
ลา

นี่หรือเสียงอันไพเราะจากการกินน้ำค้าง ข้าคงทำต่อไปไม่ไหวละ

เจ้าลานั้นทนความหิวของตัวเองไม่ไหวเพราะมันได้แต่เลียน้ำค้าง จนลืมไปว่าอาหารของมันก็คือยอดหญ้าต่างหากไม่ใช่น้ำค้าง แล้วมันก็กลับไปกินใบไม้ใบหญ้าตามเดิมโดยไม่สนใจที่จะทำให้ตนมีเสียงไพเราะเหมือนตัํกแตนแล้ว
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ควรมีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีการทำตามคนอื่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากวิถีชีวิตเดิมย่อมนำมาซึ่งความยากลำบากในภายหลัง”