มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี
เมื่อใดที่เขาเดินทางออกค้าขาย ผ่านหมู่บ้านต่าง ๆ ผู้คนที่พบเห็นต่างก็เข้ามาซื้อสมุนไพร พร้อมกับก้มลงกราบเทวรูปบนหลังของเจ้าลานั้นด้วยความศรัทธา
เจ้าของลาและเจ้าลาเดินทางผ่านมานานนับหลายเมืองก็เจอผู้คนก้มกราบเทวรูปบนหลังของลาและซื้อสมุนไพรจนเป็นเรื่องปกติ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ทั้งสองได้ผ่านมายังเมืองแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างจะแร้นแค้น มีผู้คนที่มีแต่ขอทานเต็มไปหมดกลุ่มขอทานเหล่านั้นได้เข้ามาก้มกราบและลูบไปที่เท้าของเจ้าลา พร้อมกับพูดว่า
ขอทาน
ท่านเทวดาแห่งลาและเทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยพวกขาด้วยเถอะ ช่วยดลบันดาล และประทานพรให้พวกข้าได้มีชีวิตที่ดีกว่านี้ด้วยเถิด
แล้วกลุ่มขอทานเหล่านั้นก็ก้มลงกราบพร้อมอ้อนวอนไม่หยุดทำให้ให้ลาเกิดความพยองในใจว่า
ลา
นี่ผู้คนเขาไม่ได้ก้มลงกราบเฉพาะเทวรูปบนหลังของข้าเป็นแน่ แต่พวกเขาเชื่อว่าข้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจ้าลาจึงไม่ยอมเดินต่อ ได้แต่ทำท่าชูคอและภูมิใจในตัวเองยิ่งนัก ทันใดนั้น เจ้าของลา ได้ฉุดให้เจ้าลาได้เดินต่อ แต่มันก็ไม่ขยับตัวแต่อย่างใด
เจ้าของลา
นี่ เจ้าลาโง่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเทวรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออย่างไร คนเขาไม่ได้ก้มกราบตัวเจ้าหรอกนะเขาก้มกราบเทวรูปบนหลังเจ้าต่างหา
เจ้าของลา
แล้วเจ้าขอทานพวกนี้ก็สติไม่ค่อยดีด้วย
แล้วเจ้าของลาก็ฟาดไปที่หลังของลาเต็มแรง เพื่อเรียกสติมันคืนมา เจ้าลารูปสึกเจ็บปวดยิ่งนัก และหันหลังมาค้อนเจ้าของเล็กน้อย ก่อนที่จะยอมเดินทางต่อไป