แมวกับไก่

แมวกับไก่

แมวตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองเพื่อหาอาหารกิน ตัวมันเริ่มผอมกะหร่องเพราะไม่มีอาหารกินมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมันไปพบกับแม่ไก่ตัวหนึ่งที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้เป็นแม่พันธุ์ เจ้าแมวจึงมองไก่ตัวนั้นด้วยความหิวกระหาย

แนะนำตัวละคร
แมวตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองเพื่อหาอาหารกิน ตัวมันเริ่มผอมกะหร่องเพราะไม่มีอาหารกินมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมันไปพบกับแม่ไก่ตัวหนึ่งที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้เป็นแม่พันธุ์ เจ้าแมวจึงมองไก่ตัวนั้นด้วยความหิวกระหาย
แมว
แมว

โชคดีจริง ๆ ที่ข้าตัดสินใจเดินเข้ามาในเมืองแบบนี้ จนได้มาเจอกับเจ้าไก่ตัวนั้น

แมว
แมว

หากจับไก่มากิน ข้าคงอิ่มท้องไปอีกนาน

เจ้าแมวคิดในใจว่าจะจับไก่มาได้ก็คิดหาอุบายที่จะทำให้ไก่ตกหลุมพรางของตน แต่มันก็กลัวผู้อื่นจะกล่าวหาว่าเป็นอันธพาล  จึงหาข้ออ้างกล่าวโทษไก่ว่า
แมว
แมว

เจ้านี่สร้างแต่ความเดือดร้อน  โก่งคอขันทุกคืนทำให้คนอื่นเขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน

แมว
แมว

ข้าจะกำจัดเจ้าซะเพื่อความสุขของชาวบ้านทุกคน

เจ้าไก่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบแก้ตัวว่า
ไก่
ไก่

ช้าก่อนเจ้าแมว เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อน ได้โปรดฟังข้าอธิบายก่อน

 
ไก่
ไก่

ตัวข้านั้นไม่เคยขันในเวลากลางคืน แต่ข้าจะขันตอนรุ่งเช้าเท่านั้น เพื่อปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนต่างหากล่ะ

ไก่
ไก่

มันเป็นหน้าที่ของข้าที่จะต้องขันในทุก ๆ เช้า แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่เคยทำให้ชาวบ้านต้องเดือนร้อนเลยนะ

ไก่ค้านไปด้วยเหตุผล แต่เจ้าแมวไม่ได้อยากฟังเหตุผล เพราะเป้าหมายของมันคือการจับไก่ตัวนี้มาเป็นอาหาร
แมว
แมว

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องขันปลุกใครแล้วล่ะ เพราะข้าจะขย้ำกินเจ้าเดี๋ยวนี้

พูดจบเจ้าแมวก็กระโจนตะปบไก่ทันที โดยไม่สนว่าคนอื่นจะมองอย่างไร และไม่ฟังแม้แต่เหตุผลของเจ้าไก่
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนพาลย่อมหาเรื่องเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นเสมอ”

ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเม่นน่าสงสารตัวหนึ่งเดินเร่ร่อนหาที่อยู่อาศัย สภาพของมันทั้งหิวโซ และอิดโรยจากการเดินทางเร่ร่อนมานาน จนมาพบพวกงูใจดีตัวหนึ่งกำลังขดอยู่ที่พื้น

ราชสีห์ชราตัวหนึ่ง เมื่อครั้งที่ยังหนุ่ม มันเคยเป็นที่ยำเกรงของสัตว์ทุกตัวในป่า แต่มาวันนี้ เมื่อแก่ตัวไร้เรี่ยวแรง มันได้แต่นอนอยู่ในถ้ำรอความตายไปวัน ๆ

มีลาตัวหนึ่ง มันได้เดินทางผ่านมา แล้วบังเอิญพบกับหนังราชสีห์ที่นายพรานได้ตากทิ้งไว้ที่กระท่อมชายป่า มันจึงได้ขโมยมาคลุมตัวแล้วก็เดินเที่ยวเล่น แล้วก็ทำท่าทีองอาจราวกับเป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ บรรดาสัตว์ที่พบเห็นหนังราชสีห์ที่คลุมตัวเจ้าลาอยู่ ต่างก็เข้าใจว่ามันเป็นราชสีห์เจ้าป่าที่ออกล่าเหยื่อจริง ๆ เพราะมันดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน แล้วพวกมันก็พากันวิ่งหนีกระเจิงไปทั่ว ในขณะนั้นเองก็มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินทางมาพบเห็นพอดีแล้วมันก็ได้ยินเสียงที่มันไม่คิดว่าเคยได้ยินมาก่อน ก็คือเจ้่่าลาทำท่าและทำเสียงร้องคำรามเลียนแบบราชสีห์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีปูกับงูซึ่งพวกมันเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานมากปูมีนิสัยซื่อตรงไม่เคยทรยศใครหรือทรยศงูเพื่อนรักเลย แต่งูกลับมีนิสัยคดโกง เจ้างูมักจะทรยศหักหลังเจ้าปูทุกครั้งหากมันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น สามารถที่จะทำประโยชน์ให้แก่มันได้เพียงผู้เดียว ซึ่งการกระทำของมันนั้น มักทำให้เจ้าปูได้รับความเดือดร้อนอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าปูจะพยายามตักเตือนให้งูเปลี่ยนนิสัยแต่เจ้างูก็ไม่เคยคิดที่จะกลับตัว

ณ หมู่บ้านในแถบชนบทที่มีการทำนาและไร่ทำสวนเป็นอาชีพหลัก นาข้าวสีทองถูกเก็บเกี่ยวไปบ้างแล้ว ซึ่งชาวบ้านจะนำข้าวเปลือกไปเก็บไว้ในยุ้งเพื่อกิน ขาย หรือแม้แต่เก็บไว้เพื่อทำพันธุ์ในฤดูกาลหน้า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีไก่และลาเป็นเพื่อนรักกันมานาน ทั้งคู่มักจะออกมาหากินที่ป่าด้วยกันอยู่เป็นประจำจนไม่คิดว่าจะมีอันตรายใด ๆที่จะทำให้พวกมันหวาดกลัวได้ วันหนึ่งในวันหนึ่งขณะที่ไก่และลากำลังออกหาอาหารอยู่ด้วยกันอย่างเพลิดเพลินนั้นได้มีราชสีห์ตัวหนึ่งซึ่งมันก็ก็จ้องที่จะมาล่าไก่และลาเป็นอาหารมานานแล้ว มันจึงได้คิดอุบายขึ้น โดยได้ตะโกนร้องออกมาดัง ๆว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินอย่างซุ่มซ่ามและพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่ดูแล้วลึกมาก มันพยายามที่จะตะเกียดตะกายตัวเองเพื่อที่จะเอื้อมให้ถึงและดันตัวมันเองออกมาให้ได้