ลาและเจ้าของ

ลาและเจ้าของ

ลาตัวหนึ่งถูกขี่โดยเจ้าของไปตามทาง ทันใดนั้นลาเริ่มเดินออกนอกเส้นทางและมุ่งหน้าไปที่ขอบของหน้าผาลึก ในขณะที่ลากำลังจะตกนั้น เจ้าของจับที่หางของมันเพื่อดึงมันกลับมา

แนะนำตัวละคร
มีเจ้าของลาและเจ้าลาแก่ตัวหนึ่ง  พวกเขากำลังออกเดินทางไปตามถนนที่ทอดยาวไปในป่า เจ้าลาพาเจ้าของของมันเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่เร่งรีบ พร้อมกับชื่นชมธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบๆในระหว่างการเดินทาง แต่หารู้ไม่ว่าถนนที่ได้เดินทางมานับไกลนั้นมันกลับไม่มีที่เดินต่อไปเสียแล้ว  มันได้สิ้นสุดตรงที่เป็นหน้าผาลึก

ชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม

สุดทางแล้วเหรอนี่ ไปต่อไม่ได้แล้ว


เจ้าของลาเห็นดังนั้นจึงหยุดเดินพร้อมๆกับดึงหางลาไว้เพื่อหวังให้ลาไม่เดินตกลงไปยังเหวลึก 
ชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม

หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าลาข้าบอกให้เจ้าหยุดเดินไง ไม่เห็นเหรอว่าข้างหน้ามันเป็นหน้าผา

แต่เจ้าลานั้นกับยังดื้อดึงและยังพยายามที่จะเดินต่อไป 
ชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม

ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังข้า ...ข้าก็จะไม่รั้งเจ้าไว้อีกต่อไปแล้ว..จะไปไหนก็ไป ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้ว

  เจ้าของลาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยลาไปโดยพูดว่า 
ชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม

หากเจ้ายังดื้อดึงที่จะยังเดินต่อไปเช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถรั้งเจ้าไว้ได้

สิ้นคำกล่าวเจ้าของลาจึงปล่อยหางลาตัวนั้นไป และได้คิดย้ำเตือนว่าสิ่งที่ลาตัวนั้นเลือกจะเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่านั่นคือผลของการกระทำของตัวมันเอง
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ถ้าลองได้เลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งไว้แล้ว ไม่ว่าจะใช้แรงฉุดมากน้อยเพียงใดก็ไม่สามารถจะหยุดการตัดสินใจของคนนั้นได้”

ณ งานเทศกาลประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในงานเทศกาลนั้นได้มีการจัดการแสดงของตัวตลกด้วย ตัวตลกคนนี้ได้แสดงความสามารถมากมายเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมแต่มีการแสดงอยู่การแสดงหนึ่งที่ตัวตลกคนนี้ถนัดเป็นพิเศษ นั่น คือ การเลียนแบบเสียงของสัตว์ได้หลากหลายชนิด เขาได้โชว์การแสดง เลียนแบบเสียงของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่ประทับใจเป็นอย่างมาก

ปูทะเลตัวหนึ่งเบื่ออาหารใต้ท้องทะเล จึงเดินขึ้นมาหากินบนชายหาด หมาจิ้งจอกหิวโซตัวหนึ่งเดินเลาะเลียบหาดหาเหยื่อมาหลายวัน เมื่อเห็นปูทะเลตัวใหญ่ก็ดีใจตรงเข้าตะปบจับไว้ทันที

มีชายเจ้าของลาคนหนึ่งเขามีอาชีพขายยาสมุนไพร เขาเดินทางมาพร้อมลาของเขาซึ่งบนหลังของลานั้นมีถุงสมุนไพร พร้อมกันนั้นเขาได้มัดรูปปั้นรูปหนึ่งที่แกะสลักเป็นเทวรูปด้วยไม้หอมมีรูปร่างสวยงามซึ่งชายเจ้าของลาเชื่อว่า เทวรูปนี้ทำให้ตนค้าขายได้ดี

มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินมาด้วยความหิวเนื่องจากไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อให้มันกินเลย มันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้สังเกตว่าได้มีเจ้ากาดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นจิ้งจอกก็เห็นเนื้อที่ กาคาบไว้ ด้วยความฉลาดแกมเจ้าเล่ห์ของเจ้าจิ้งจอกมันจึงได้พูดขึ้นมาว่า สวัสดีแม่กาสุดสวย

มีชายนักเดินทางอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบพูดแต่ความจริง ส่วนอีกคนหนึ่งชอบพูดแต่คำโกหก พวกเขาเดินทางร่วมกันมาจนมาถึงดินแดนราชาลิงโดยบังเอิญ ที่เมืองของราชาลิงมีประเพณีอยู่ว่า หากมีคนมาเยือนที่เมืองแห่งราชาลิงแล้ว จะต้องนำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าท่ามกลางฝูงลิงข้าราชบริพารที่นั่งเรียงเป็นแถวเหมือนกับพวกมนุษย์ที่เข้าเฝ้าราชาของมนุษย์นั่นเองราชาลิงสั่งให้นำตัวชายทั้งสองมาพบ

ณ หมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก ทุก ๆ วันชาวบ้านที่เป็นผู้ชายจะตื่นขึ้นมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนผู้หญิงจะทำงานบ้าน และคอยหาอาหารเพื่อรอสามีกลับมาจากทำงาน กระทั่งมีหญิงสาวคนหนึ่งได้นำผ้าที่ซักเอาไว้ออกมาตากที่ราวตากผ้า

มดจะขนอาหารมาเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึงเพื่อให้มีอาหารกินตลอดหน้าหนาวและเตือนให้ตั้กแตนเก็บอาหารไว้บ้างแต่ตั๊กแตนกลับคิดว่าพวกตนมีเสบียงเพียงพอแล้วไม่ต้องหาเพิ่มเติมอีก

ลาตัวหนึ่งได้ยินเสียงที่ไพเราะของตั๊กแตนแล้วลาตัวนั้นจึงอยากจะมีเสียงไพเราะอย่างตั๊กแตนบ้าง หารู้ไหมว่ามันเปลี่ยนแปลงวิถีชิวิตเดิมของตน