เม่นกับงู

เม่นกับงู

ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเม่นน่าสงสารตัวหนึ่งเดินเร่ร่อนหาที่อยู่อาศัย สภาพของมันทั้งหิวโซ และอิดโรยจากการเดินทางเร่ร่อนมานาน จนมาพบพวกงูใจดีตัวหนึ่งกำลังขดอยู่ที่พื้น

แนะนำตัวละคร
ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเม่นน่าสงสารตัวหนึ่งเดินเร่ร่อนหาที่อยู่อาศัย สภาพของมันทั้งหิวโซ และอิดโรยจากการเดินทางเร่ร่อนมานาน จนมาพบงูใจดีตัวหนึ่งกำลังขดอยู่ที่พื้น
งู
งู

สวัสดีเจ้าเม่น เจ้ากำลังจะเดินทางไปที่ไหนหรือ

เม่น
เม่น

ข้าเดินทางเร่ร่อนในป่าแห่งนี้เพื่อหาที่อยู่อาศัย

งู
งู

โอ้...แถวนี้เต็มไปด้วยสัตว์ป่าดุร้าย เจ้าจะต้องระวังตัวหน่อยนะ

เม่น
เม่น

ขอบคุณเจ้ามากนะ

เจ้างูเห็นเม่นผู้น่าสงสารก็รู้สึกเวทนา เพราะสภาพของเม่นตัวนี้นั้นผอมแห้ง คาดว่าคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว เจ้างูใจดีเลยให้เจ้าเม่นตัวนี้มาอาศัยอยู่ในรังของมัน
งู
งู

ดู ๆ แล้วเจ้าคงเดินทางมาเหนื่อย ๆ และก็หิวใช่หรือไม่

เม่น
เม่น

ใช่แล้วล่ะ ข้าเหนื่อยและหิวมาก แต่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดี ข้าถึงจะปลอดภัย

งู
งู

งั้นเอาแบบนี้ดีไหม เจ้ามาอยู่กับข้าที่รังสิ

งู
งู

รังของข้านั้น เจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน

เจ้าเม่นได้ยินเช่นนั้นก็ตอบตกลงทันที
เม่น
เม่น

ตกลง! ข้าขอบคุณเจ้ามากนะ

ต่อมาไม่นาน  พวกงูต่างมีบาดแผลเต็มตัว  เพราะถูกขนแหลมที่เม่นสลัดทิ้งทิ่มตำ
พวกงูจึงขอร้องแกมบังคับเม่นว่าให้ย้ายออกไปจากรังของพวกมันจะดีกว่า เพราะหากเจ้าเม่นอยู่ต่อ มีหวังต้องบาดเจ็บล้มตายกันทั้งรังอย่างแน่นอน
งู
งู

เจ้าช่วยออกไปหาที่อยู่ใหม่เถอะนะ  พวกข้าทนอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว

เม่นก็ทำทีนิ่งเฉยพูดขึ้นว่า
เม่น
เม่น

ข้าอยู่ที่นี่ก็สุขสบายดีอยู่แล้ว ใครได้รับความเดือดร้อนก็ไปหาที่อยู่ใหม่เสียสิ


ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนเห็นแก่ตัวย่อมไม่รู้จักบุญคุณและไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น”

มีราชสีห์ ตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ มันอาศัยอยู่ในถ้ำใหญ่ในป่าลึก นิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของเจ้าราชสีห์ตัวนี้คือมันมักจะขี้เกียจออกล่าเหยื่อหาอาหาร มันจึงวางแผนแกล้งป่วยแล้วนอนซมอยู่ในถ้ำแล้วขอให้สัตว์ต่าง ๆมาเยี่ยมมันเพื่อที่จะได้จับสัตว์เหล่านั้นกินเป็นอาหารอย่างง่ายดาย

มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเดินมาด้วยความหิวเนื่องจากไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อให้มันกินเลย มันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้สังเกตว่าได้มีเจ้ากาดำตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นจิ้งจอกก็เห็นเนื้อที่ กาคาบไว้ ด้วยความฉลาดแกมเจ้าเล่ห์ของเจ้าจิ้งจอกมันจึงได้พูดขึ้นมาว่า สวัสดีแม่กาสุดสวย

กาตัวหนึ่งบินร่อนหาอาหารแถบชายฝั่งทะเล สายตาของมันพยายามมองหาอาหารสำหรับวันนี้ มันเหลือบเห็นหอยกาบตัวใหญ่บนหาดทรายจึงโฉบลงมาหมายจะจิกกิน

เจ้าสุนัขจิ้งจอกผู้เกรียจคร้านตัวหนึ่ง มันได้ออกมาเดินเล่นเพื่อที่จะหาอาหารกิน และหากว่ามันได้เห็นต้นไม้ใหญ่สักต้นแล้วละก็ มันก็จะอาศัยร่มเงาเพื่อที่จะนอนกลางวันสักหน่อย

มดจะขนอาหารมาเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึงเพื่อให้มีอาหารกินตลอดหน้าหนาวและเตือนให้ตั้กแตนเก็บอาหารไว้บ้างแต่ตั๊กแตนกลับคิดว่าพวกตนมีเสบียงเพียงพอแล้วไม่ต้องหาเพิ่มเติมอีก

ในวันที่ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว มีชายนักเดินทางคนหนึ่ง ต้องการเดินทางไปยังอีกเมืองหนึ่ง เขาจึงได้ไปตะเวนหาเช่าลา เพื่อใช้สำหรับขนเสบียงและนั่งบนหลังของมัน ชายนักเดินทางได้พบกับเจ้าของลาที่ตามหา

มีนักธนูฝีมือดีอยู่คนหนึ่งเขาได้ออกเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อที่จะล่าสัตว์แต่ด้วยความเก่งกาจและความหน้าแกรงขามของเขานั้นทันทีที่เขาได้ย่างเท้าก้าวเขาไปในป่าได้ทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวพากันแตกตื่นวิ่งหนีเขาเพื่อเอาชีวิตรอดไปกันหมดในเวลาที่เขาเข้าใกล้พวกมัน

ณ กระท่อมเล็กๆท้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้มีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนประกอบไปด้วย พ่อ ลูกชายคนโต ลูกชายคนกลาง และ ลูกชายคนเล็ก วันหนึ่งพ่อของพวกเขาได้ล้มป่วยลงอย่างกระทันหันและด้วยความชราของผู้เป็นบิดานั้นทำให้เขารับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าตนจะอยู่ดูแลลูกได้อีกไม่นานเขาเลยตัดสินใจที่จะเรียกลูกชายทั้งสามของเขามาอยู่รอบๆตัวของเขาเพื่อที่จะพูดสั่งเสียก่อนที่เขาจะจากไปหลังจากที่ลูกชายทั้งสามของเขามาครบแล้วผู้เป็นพ่อก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยกับลูกชายทั้งสามของเขาว่า