ไก่ได้พลอย

ไก่ได้พลอย

ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบทที่มีการเลี้ยงไก่เพื่อที่จะสามรถนำไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหารได้ และเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น

แนะนำตัวละคร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบท ชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะเลี้ยงไก่ไว้เพื่อเก็บไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหาร ซึ่งในทุก ๆ วันชาวบ้านจะปล่อยฝูงไก่ออกจากเล้าเพื่อที่จะได้เดินคุ้ยเขี่ยหากินตามธรรมชาติ
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น มันจึงจ้องมองด้วยความสงสัยและพึมพำออกมาว่า
แม่ไก่
แม่ไก่

แสงวิบวับนี่คืออะไรกัน

แม่ไก่พูดด้วยความสงสัย และพยายามเขี่ยเพื่อที่จะนำวัตถุวิบวับนั้นออกมา จนกระทั่งมันได้พบกับต้นตอของประกายวิบวับนั่น สิ่งนั้นคือพลอยนั่นเอง แม่ไก่จึงพูดต่ออีกว่า
แม่ไก่
แม่ไก่

ถ้าหากช่างทองได้พลอยงามเม็ดนี้ เขาคงจะดีใจมากอย่างแน่นอน

เพราะพลอยถือเป็นสิ่งมีค่า และมีราคาเป็นอย่างมาก หากชาวบ้านนำไปขายก็จะทำให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่เจ้าไก่ตัวนี้กลับไม่ได้สนใจพลอยงามเม็ดนี้เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่มันต้องการคือเมล็ดข้าวเพื่อที่จะทำให้มันอิ่มท้องเท่านั้น
เจ้าไก่ทิ้งพลอยเม็ดงามนั้นไว้ที่เดิมและรำพึงขึ้นว่า
แม่ไก่
แม่ไก่

พลอยเม็ดงามนี้มีค่าสำหรับช่างทอง แต่ช่างน่าเสียดาย เพราะมันไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับข้า

แม่ไก่
แม่ไก่

ตอนนี้ข้าหิวมากและต้องการหาอาหารประทังชีวิตมากกว่า ข้าวแค่เม็ดเดียวจึงมีค่ามากกว่าพลอยเม็ดโตเสียอีก

สิ้นคำพูด แม่ไก่ตัวนี้ก็เดินคุ้ยเขี่ยหาอาหารตามพื้นดินต่อไป โดยไม่สนใจพลอยเม็ดงามที่ยังส่องแสงประกายวิบวับอยู่
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“บางสิ่งมีค่าสำหรับบางคน”

กาลครั้งหนึ่งในป่าที่หนาทึบแห่งหนึ่ง ได้มีนกฮูกและช้างซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากอาศัยอยู่ ทั้งสองได้แบ่งปันความทุกข์ความสุขให้แก่กันและกัน จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

ณป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายหลายชนิด หนึ่งในสัตว์ป่าก็มีลิงอยู่ตัวหนึ่งมันอาศัยอยู่ที่นี่มานานแล้วเจ้าลิงจะออกมาอยู่ในป่าตรงที่มีลำธารเพื่อจะเก็บผลไม้กินทุกวันทุกวันจนผลไม้ในป่าเริ่มจะหมดลง เจ้าลิงสังเกตเห็นว่ามีป่าใหญ่อีกที่อยู่ตรงกันข้ามกับป่าที่มันอาศัยอยู่มันมองเห็นว่าป่าฝั่งนั้นมีผลไม้มากมายหลายอย่างคงไม่ทำให้มันอยู่อย่างแร้นแค้นเหมือนที่นี่แน่นอน

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบาย ราชสีห์ตัวใหญ่ มองดูแล้วช่างสมกับเป็นเจ้าแห่งป่า น่าเกรงขามยิ่งนัก มันกำลังนอนหลับนิ่งเงียบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีเจ้าหนูตัวน้อย ได้ออกมาวิ่งเล่นหาอาหารกินในบริเวณ

กาตัวหนึ่งบินร่อนหาอาหารแถบชายฝั่งทะเล สายตาของมันพยายามมองหาอาหารสำหรับวันนี้ มันเหลือบเห็นหอยกาบตัวใหญ่บนหาดทรายจึงโฉบลงมาหมายจะจิกกิน

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

มีสุนัขจอมตะกละ มันชอบกินไข่เป็นอย่างมากมันได้แวะเวียนไปที่เล้าไก่หลายครั้งเวลาที่มันหิวเพื่อที่จะได้ขโมยไข่ของแม่ไก่มากิน วันหนึ่งมันได้กินหอยนางรมทำให้มันเกือบท้องแตกตายเพราะคิดว่ามันจะอร่อยเหมือนไข่ไก่ที่เคยกิน

บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่ง โผบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข มันเตรียมพร้อมที่จะบินลงสู่พื้นดินเพื่อหาอาหารอย่างเช่นทุกวัน จนกระทั่ง มันสังเกตเห็นหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังดิ้นทุรนทุรายที่ใต้ต้นไม้ หมาป่าตัวน้อยดูเจ็บปวดอย่างมาก นกกระเรียนจึงเดินเข้าไปถามมันว่า

ลาตัวหนึ่งถูกขี่โดยเจ้าของไปตามทาง ทันใดนั้นลาเริ่มเดินออกนอกเส้นทางและมุ่งหน้าไปที่ขอบของหน้าผาลึก ในขณะที่ลากำลังจะตกนั้น เจ้าของจับที่หางของมันเพื่อดึงมันกลับมา