นกกระสากับชาวไร่

นกกระสากับชาวไร่

ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง

แนะนำตัวละคร
ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง
วันหนึ่งชาวไร่คิดหาทางแก้ปัญหาโดยการวางตาข่ายดักจับนกยางที่ชอบมาจิกกินเมล็ดข้าวโพดของตน 
ชาวไร่
ชาวไร่

ข้าชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ เจ้าพวกนกยางนั่นมาจิกกินข้าวโพดของข้าจนเสียหายไปเกือบหมด

ชาวไร่
ชาวไร่

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มีหวังผลผลิตในปีนี้ต้องขาดทุนแน่

ชาวไร่
ชาวไร่

วันนี้ข้าจะนำตาข่ายมาดักจับเจ้าพวกนกยางหัวขโมยทั้งหลายให้หมด!

ชาวไร่ขึงตาข่ายดักจับนกยางด้วยความโกรธ แต่ทว่ามีนกกระสาตัวหนึ่งหากินบินโฉบจับหนูนาตามท้องไร่ จึงพลาดท่าติดตาข่ายรวมกับพวกนกยางด้วย
นกกระสา
นกกระสา

ช่วยข้าด้วย! ใครก็ได้ช่วยข้าออกไปที

ไม่มีผู้ใดที่สามารถช่วยเหลือนกกระสาผู้โชคร้ายตัวนี้ได้ จนกระทั่งถึงวันรุ่งขึ้น ชาวไร่มาดูตาข่ายและจับนกกระสาไว้ แต่นกกระสาพยายามที่จะอ้อนวอนขอชีวิตว่า
นกกระสา
นกกระสา

ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถิด

นกกระสา
นกกระสา

ข้าไม่ได้จิกกินเมล็ดข้าวโพดของท่านสักเมล็ดเดียว

นกกระสา
นกกระสา

แต่ข้ามาช่วยจับหนูนาศัตรูตัวร้ายที่ทำลายพืชไร่ของท่านต่างหาก  ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะนะ

ชาวไร่ได้ยินเช่นนั้นจึงช่างใจอยู่นาน ก่อนจะพูดว่า
ชาวไร่
ชาวไร่

เจ้าอาจจะพูดความจริงก็ได้ แต่ในเมื่อข้าพบเจ้าติดอยู่กับตาข่ายรวมอยู่กับยกยางหัวขโมยเหล่านี้

ชาวไร่
ชาวไร่

เจ้าก็ต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนดีเมื่อรวมอยู่กับหมู่คนร้ายก็มักถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกัน”

เจ้าลาตัวน้อยสีน้ำตาลเดินโซเซตรงมาเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ในสภาพเนื้อตัวมอมแมมซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลน ในช่วงของฤดูแล้งที่ไม่มีสายฝนโปรยปรายลงมาจากฟ้า แม้แต่หญ้าสักต้นก็หาได้หายาก หลังจากที่เจ้าลาน้อยไม่ได้กินอะไรมาหลายวันและแล้วมันก็พบกับคอกม้าซึ่งในนี้มีม้าสีขาวตัวใหญ่ยืนอยู่มันดูสูงสง่ามาก ดูแล้วช่างแตกต่างกันมากจากสภาพของเจ้าลาในตอนนี้

ณ บึงน้ำในป่าแห่งหนึ่ง บึงแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีพืชที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีต้นโอ๊กใหญ่ขึ้นแผ่กิ่งก้านอยู่ริมฝั่งและมีต้นอ้อขั้นอยู่ในน้ำ ทั้งสองมักจะเห็นกันและกันอยู่ทุกวัน

ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยว

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ป่าใหญ่ที่มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ มีหมีตัวหนึ่งเดินหาอาหารกิน ซึ่งหมีชื่นชอบผลไม้เป็นชีวิตจิตใจ หากได้พบกับต้นเบอร์รี่ มันจะกินจนเกลี้ยงไม่ให้เหลือ แต่วันนี้เบอร์รี่ที่มันชื่นชอบหมดเสียแล้ว มันจึงต้องเดินหาอาหารต่อไปจนได้มาพบกับรังผึ้งรวงใหญ่

ปูทะเลตัวหนึ่งเบื่ออาหารใต้ท้องทะเล จึงเดินขึ้นมาหากินบนชายหาด หมาจิ้งจอกหิวโซตัวหนึ่งเดินเลาะเลียบหาดหาเหยื่อมาหลายวัน เมื่อเห็นปูทะเลตัวใหญ่ก็ดีใจตรงเข้าตะปบจับไว้ทันที

ณ บ้านหลังหนึ่งในแถบชนบทที่มีการเลี้ยงไก่เพื่อที่จะสามรถนำไข่ไก่ไปขาย หรือนำมาทำเป็นอาหารได้ และเช้าวันหนึ่ง ขณะที่แม่ไก่กำลังคุ้ยเขี่ยหาอาหารบนลานดินอย่างเช่นทุกวัน แต่มันก็เขี่ยไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ส่องแสงประกายวิบวับอยู่ที่พื้น

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเขามีอาชีพเป็นนายพรานเขาได้ออกล่าหาสัตว์เพื่อที่จะเป็นอาหารอยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งชายผู้นี้ได้จับนกกระทาได้เขาจึงได้นำมันไปเลี้ยงไว้ในเล้าของไก่ชนของตนเอง