หนูเเก่ตัวหนึ่งเดินทางเเรมรอนมาเป็นเวลานานเพื่อที่จะหาอาหารกลับไปยังรังของมันที่อยู่ในเขตชนบท แต่มันกลับต้องหยุดการเดินทางลงเพราะมีลำธารขนาดใหญ่ตัดเส้นทางของมัน มีเพียงหนทางเดียวที่มันจะสามารถเดินทางต่อไปได้ คือต้องข้ามลำธารนี้ไปเท่านั้น
แต่เพราะน้ำในลำธารไหลเชี่ยว หากจะว่ายน้ำข้ามไปตัวมันก็เล็กนิดเดียว คงจะถูกซัดไปกับน้ำเป็นแน่ มันจึงพยายามมองหาตัวช่วย จนได้พบกับกบตัวน้อยที่ริมลำธาร มันจึงขอร้องให้เจ้ากับช่วย
หนู
เจ้ากบเอ๋ย ข้าต้องการข้ามลำธารแห่งนี้ แต่เพราะข้าตัวเล็กอย่างที่ท่านเห็น หากจะว่ายน้ำข้ามไปคงไม่รอด
หนู
ได้โปรดช่วยพาข้าข้ามลำธารนี้ที
เจ้ากบน้อยได้มองเจ้าหนูเเล้วปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
กบ
โธ่ ข้าน่ะตัวเล็กพอ ๆ กับท่าน เเล้วจะพาท่านข้ามไปได้อย่างไรกันล่ะ
เจ้าหนูได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ยอม กลับอ้างว่าตนเป็นสัตว์ผู้อาวุโสกว่า ถ้ากบไม่ช่วยตนก็จะไปป่าวประกาศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายรู้ถึง ความใจดำของกบ
หนู
เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านั้นอาวุโสกว่าเจ้าหลายปี การที่เจ้าปฏิเสธที่จะช่วยเหลือผู้อาวุโสอย่างข้าจะลงเอ่ยอย่างไรรู้ไหม
หนู
ข้าจะไปป่าวประกาศให้ทั่วป่าเลย ว่าเจ้านั้นมันใจดำ
หนู
ทั้ง ๆ ที่ข้าเดือดร้อนและขอร้องให้เจ้าช่วยดี ๆ แท้ ๆ
หนู
คิดเอาเองแล้วกัน ว่าจะยอมช่วยข้า หรือจะให้สัตว์ป่าทั้งหลายรังเกียจเจ้าเพราะความใจดำ
เมื่อถูกขู่เข็ญเช่นนั้น กบจึงต้องจำยอมให้หนูเอาเท้าผูกกับเท้าของตนเเล้วก็พาว่ายข้ามลำธาร เเต่ทว่าพอว่ายไปได้เเค่ครึ่งทางเท่านั้นกบก็เริ่มหมดเเรง แต่ก่อนที่ทั้งสองจะจมน้ำก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบลงมาจิกเอาทั้งกบและหนูไปกินในที่สุด