ราชาลิงและนักเดินทางทั้งสอง

ราชาลิงและนักเดินทางทั้งสอง

มีชายนักเดินทางอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบพูดแต่ความจริง ส่วนอีกคนหนึ่งชอบพูดแต่คำโกหก พวกเขาเดินทางร่วมกันมาจนมาถึงดินแดนราชาลิงโดยบังเอิญ ที่เมืองของราชาลิงมีประเพณีอยู่ว่า หากมีคนมาเยือนที่เมืองแห่งราชาลิงแล้ว จะต้องนำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าท่ามกลางฝูงลิงข้าราชบริพารที่นั่งเรียงเป็นแถวเหมือนกับพวกมนุษย์ที่เข้าเฝ้าราชาของมนุษย์นั่นเองราชาลิงสั่งให้นำตัวชายทั้งสองมาพบ

แนะนำตัวละคร
มีชายนักเดินทางอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบพูดแต่ความจริง ส่วนอีกคนหนึ่งชอบพูดแต่คำโกหก พวกเขาเดินทางร่วมกันมาจนมาถึงดินแดนราชาลิงโดยบังเอิญ  ที่เมืองของราชาลิงมีประเพณีอยู่ว่า หากมีคนมาเยือนที่เมืองแห่งราชาลิงแล้ว จะต้องนำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าท่ามกลางฝูงลิงข้าราชบริพารที่นั่งเรียงเป็นแถวเหมือนกับพวกมนุษย์ที่เข้าเฝ้าราชาของมนุษย์นั่นเองราชาลิงสั่งให้นำตัวชายทั้งสองมาพบและถามว่า
ราชาลิง
ราชาลิง

ข้าเป็นราชาอย่างไรในสายตาของพวกเจ้า

ชายแปลกหน้านักเดินทางผู้โกหกตอบว่า
ชายโกหก
ชายโกหก

ท่านเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและบริวารของท่านช่างสง่างามเหมาะสมกับท่านที่สุด

ราชาลิงพึงพอใจมากกับคำโกหกนั้น และได้มอบของขวัญให้แก่ชายโกหกผู้นั้นอย่างมากมายส่วนนักเดินทางที่ชอบพูดแต่ความจริง ครุ่นคิดกับตัวเองว่า
ชายซื่อสัตย์
ชายซื่อสัตย์

การโกหกทำให้ได้รางวัลผลตอบแทนขนาดนี้เชียวหรือ ฉันอาจจะไม่ได้อะไรถ้าพูดความจริงเหมือนทุกครั้ง


และเขาก็ได้รับคำถามเดียวกันกับชายผู้โกหก
ราชาลิง
ราชาลิง

ข้าและสหายของข้าเป็นอย่างไรในสายตาเจ้า

ชายซื่อสัตย์
ชายซื่อสัตย์

ท่านช่างเป็นราชาลิงที่ยอดเยี่ยมที่สุดเช่นเดียวกับบริวารของท่านก็เช่นกัน

ราชาลิงโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น  เพราะไม่คิดว่าชายผู้มีสัจจะคนนี้จะสามารถโกหกเหมือนกับชายผู้ชอบโกหก นั่นหมายความว่า ชายผู้มีสัจจะคนนี้ เป็นคนโกหกโดยไม่ยอมพูดความจริงที่ตนเองคิด ราชาลิงโกรธมากจึงได้สั่งให้บริวารได้จับชายทั้งสองนั้นไปกักขังในทันที 
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“การพูดให้ถูกต่อสถานการณ์และการพูดเคารพผู้อื่นคือสิ่งที่ควรทำ”

ครั้งหนึ่ง บรรดาหนูในบ้านหลังหนึ่งต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน หนูหลายตัวเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที หนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า

ณ บึงน้ำในป่าแห่งหนึ่ง บึงแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีพืชที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีต้นโอ๊กใหญ่ขึ้นแผ่กิ่งก้านอยู่ริมฝั่งและมีต้นอ้อขั้นอยู่ในน้ำ ทั้งสองมักจะเห็นกันและกันอยู่ทุกวัน

แมวตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองเพื่อหาอาหารกิน ตัวมันเริ่มผอมกะหร่องเพราะไม่มีอาหารกินมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมันไปพบกับแม่ไก่ตัวหนึ่งที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้เป็นแม่พันธุ์ เจ้าแมวจึงมองไก่ตัวนั้นด้วยความหิวกระหาย

บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่ง โผบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข มันเตรียมพร้อมที่จะบินลงสู่พื้นดินเพื่อหาอาหารอย่างเช่นทุกวัน จนกระทั่ง มันสังเกตเห็นหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังดิ้นทุรนทุรายที่ใต้ต้นไม้ หมาป่าตัวน้อยดูเจ็บปวดอย่างมาก นกกระเรียนจึงเดินเข้าไปถามมันว่า

มดตัวหนึ่งกำลังวิ่งอย่างคล่องแคล่วอยู่ท่ามกลางแสงแดดเพื่อหาอาหาร มันเจอกับดักแด้ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อ ดักแด้ขยับหางของมัน ซึ่งดึงดูดความสนใจของมดที่เพิ่งเห็นว่าดักแด้ยังมีชีวิตอยู่

ลาตัวหนึ่งถูกขี่โดยเจ้าของไปตามทาง ทันใดนั้นลาเริ่มเดินออกนอกเส้นทางและมุ่งหน้าไปที่ขอบของหน้าผาลึก ในขณะที่ลากำลังจะตกนั้น เจ้าของจับที่หางของมันเพื่อดึงมันกลับมา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ป่าใหญ่ที่มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ มีหมีตัวหนึ่งเดินหาอาหารกิน ซึ่งหมีชื่นชอบผลไม้เป็นชีวิตจิตใจ หากได้พบกับต้นเบอร์รี่ มันจะกินจนเกลี้ยงไม่ให้เหลือ แต่วันนี้เบอร์รี่ที่มันชื่นชอบหมดเสียแล้ว มันจึงต้องเดินหาอาหารต่อไปจนได้มาพบกับรังผึ้งรวงใหญ่

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอเพียงแค่เราใช้สติในการตัดสินใจและมองหาทางออกอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้