ในวันที่ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว มีชายนักเดินทางคนหนึ่ง ต้องการเดินทางไปยังอีกเมืองหนึ่ง เขาจึงได้ไปตะเวนหาเช่าลา เพื่อใช้สำหรับขนเสบียงและนั่งบนหลังของมัน ชายนักเดินทางได้พบกับเจ้าของลาและถามว่า
นักเดินทาง
ท่านมีลาที่ตัวใหญ่ดูแข็งแรง สามารถขนเสบียงของข้าได้ไหม
ชายเจ้าของลาจึงตอบไปว่า
เจ้าของลา
ข้ามีหลายตัวเลยทีเดียว แต่ข้าจะให้เจ้าเอาลาตัวนี้ไป เพราะมันตัวใหญ่ดูแข็งแรงกว่าตัวอื่น ๆ ที่สำคัญมันฉลาดและเชื่องมาก
เจ้าของลา
มันเคยเดินทางไปยังเมืองที่อยู่ห่างไกลมาหลายเมืองแล้ว
เมื่อนักเดินทางได้ยินอย่างนั้น เขาตอบตกลงและยินดีจ่ายค่าเช่าลา ตามที่ชายเจ้าของลาได้บอกไว้
เจ้าของลา
แต่การเดินทางนั้นข้าต้องเดินทางไปด้วยนะ เพราะเกรงว่าเจ้าลาจะไม่คุ้นเคยและไม่เชื่องเหมือนมันอยู่กับเจ้าของ
นักเดินทาง
ได้สิ ตกลงตามนั้น งั้นพวกเราก็ออกเดินทางพรุ่งนี้เลย
ชายทั้งสองคน พร้อมกับเจ้าลาและเสบียงที่บรรทุกไว้เต็มหลังพร้อมออกเดินทาง พวกเขาเดินทางมาครึ่งวัน ระยะทางที่ห่างจากเมืองเป้าหมายยังอยู่อีกไกล และไม่มีต้นไม้ใหญ่ที่จะสามารถให้ร่มเงาได้ มีเพียงพื้นหญ้าอันเหี่ยวเฉาจากอากาศที่ร้อนระอุ ต้องหาที่หลบแดดให้ได้ ชายทั้งสองจึงคิดที่จะอาศัยพักที่เงาของเจ้าลา
นักเดินทาง
ข้าจะพักที่ร่มใต้เงาเจ้าลานะ ข้าร้อนเหลือเกิน
เจ้าของลา
ไม่ได้นะ ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะได้พักในร่มของลา ข้าต่างหากที่จะพักใต้เงนได้ เพราะข้าเป็นเจ้าของ
นักเดินทาง
ข้าเป็นคนเช่าเจ้าลาตัวนี้น่ะ เท่ากับว่าข้าก็เช่าเงาของมันไปด้วย
ทั้งสองคนโต้แย้งกันและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง เจ้าลาได้ยินดังนี้ มันก็สะบัดเสบียงที่บรรทุกไว้เต็มหลังให้หลุดและวิ่งกระโจนหายเข้าไปในป่าปล่อย ให้ชายทั้งสองคน ได้แต่มองหน้ากันและไม่อาจวิ่งตามเจ้าลาได้ทัน