ลาและกบ

ลาและกบ

มีลาตัวหนึ่งที่กำลังทำงานอยู่ งานของมันคือการขนสัมภาระไปให้เจ้าของของมัน ยังหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ถัดออกไป สัมภาระนั้นดูมากจนเต็มหลังไปหมด มันเดินมาสักระยะหนึ่ง จนถึงธารน้ำ และตั้งใจที่จะเดินข้ามไปยังอีกฝั่ง เพราะเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้ คือหมู่บ้านซึ่งอยู่อีกฝั่งของธารน้ำ

236 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในวันหนึ่งที่อากาศสดใส ท้องฟ้าดูปลอดโปร่ง มีลาตัวหนึ่งที่กำลังทำงานอยู่ งานของมันคือการขนสัมภาระไปให้เจ้าของของมัน สัมภาระนั้นดูมากจนเต็มหลังไปหมด มันเดินมาสักระยะหนึ่ง จนถึงธารน้ำและตั้งใจที่จะเดินข้ามไปยังอีกฝั่งเพราะเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้ คือหมู่บ้านซึ่งอยู่อีกฝั่งของธารน้ำ มองออกไปก็อยู่ไม่ไกลมากนัก
มันค่อย ๆ ก้าวเท้าไปละน้อยด้วยความระมัดระวังหวังจะข้ามธารน้ำ และก้มลงเพื่อที่จะกินน้ำสักหน่อย แต่ทันใดนั้นก็สะดุดก้อนหินและล้มลงจนสุดตัว มันพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะสัมภาระที่แบกอยู่เต็มหลังนั้นหนัก ไม่อาจทำให้ขยับตัวได้เลย ลาได้แต่นอนร้องโอดครวญอยู่อย่างนั้น
ลา
ลา

ขาของข้า ข้าเจ็บเหลือเกิน นี่ล้มลงจนสุดตัวเลยทีเดียว

ทันใดนั้น มีกบตัวหนึ่ง มันอยู่ในธารน้ำนั้นพอดี พอได้ยินเสียงโอดครวญอย่างเจ็บปวดของเจ้าลา จึงได้พูดขึ้นว่า
กบ
กบ

เจ้าเจ็บมากมายขนาดนั้นเลยหรือนี่

กบ
กบ

เจ้าจะทำอย่างไรถ้าต้องอยู่ที่นี่ตลอดเหมือนข้า ทั้ง ๆ ที่เจ้าแค่ตกลงไปในน้ำเล็กน้อยเท่านี้

ลา
ลา

ข้าเจ็บข้าก็ต้องร้อง แล้วข้าจะอยู่เหมือนเจ้าได้อย่างไรล่ะ เจ้ากบ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย

ลา
ลา

เจ้าเป็นสัตว์ที่มีชีวิตอาศัยอยู่ในน้ำ จะมาเหมือนข้าได้ยังไง โง่จริง ๆ พูดอะไรไม่เข้าท่าเลย

กบ
กบ

เจ้ามาบอกว่าข้าโง่ งั้นเจ้าเองก็คงโง่เช่นเดียวกับข้า

กบ
กบ

เพียงแค่เจ้านำสัมภาระบนหลังของเจ้าทิ้งไป เจ้าก็ออกจากแอ่งน้ำนี้ได้แล้ว

กบ
กบ

แค่นี้ก็ต้องให้ข้าบอก เจ้านี่มันโง่จริง ๆ ฮ่า ๆ

ได้ยินเช่นนั้น ลาก็หยุดร้องในทันทีก่อนที่จะค่อย ๆ ดันตัวขึ้นจากแอ่งน้ำนั้นแล้วตะเกียกตะกายออก พร้อมกับทิ้งสัมภาระที่หนักไว้ตรงนั้น และพาตัวของมันเดินโซเซต่อไป
เจ้ากบได้แต่มองตามและหัวเราะ ไม่หยุด
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“อย่าดูถูกคนอื่นที่มีความสามารถไม่เท่ากับตน เพราะบางคนมีความสามารถและเชี่ยวชาญในคนละด้าน”