ปลาโลมากับราชสีห์

ปลาโลมากับราชสีห์

ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยว

แนะนำตัวละคร
ราชสีห์ เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม ไม่ว่าจะเดินไปที่ใด สัตว์ป่าน้อยใหญ่ต่างก็ต้องยำเกรง เป็นราชสีห์ถือเป็นเจ้าป่า หรือเรียกได้ว่าเป็นใหญ่ที่สุด วันหนึ่งเจ้าราชสีห์รู้สึกเบื่อหน่ายจึงเดินทางออกจากป่าเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวและเผื่อว่ามันจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ บ้าง มันเดินไปตามชายหาด แล้วเห็นปลาโลมาตัวหนึ่ง กำลังลอยตัวผึ่งแดดอยู่บนผิวน้ำ จึงร้องทักทายผูกมิตรด้วย
ราชสีห์
ราชสีห์

สวัสดี! ปลาโลมา ข้าว่าเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ

ราชสีห์
ราชสีห์

เจ้าเป็นใหญ่ในท้องทะเล ส่วนข้าเป็นใหญ่ในป่ากว้าง ถ้าเราช่วยเหลือกันคงไม่มีใครกล้าตอแยแน่ ๆ

เจ้าราชสีห์รู้ชื่อเสียงเลื่องลือของเจ้าโลมา ว่าเป็นใหญ่ในท้องทะเล จึงอยากผูกมิตรกับสัตว์ที่มีความน่าเกรงขามเฉกเช่นเดียวกับตน
 ปลาโลมาเห็นดีด้วย จึงตกลงเป็นเพื่อนกับราชสีห์ทันที และทั้งสองยังสัญญาต่อกันว่าจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอีกด้วย
โลมา
โลมา

ตกลง! ข้ายอมเป็นเพื่อนกับเจ้า หวังว่ามิตรภาพของเราจะทำให้เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไปนะ

ราชสีห์
ราชสีห์

แน่นอน งั้นเอาอย่างนี้ไหมเจ้าโลมา เรามาให้คำมั่นสัญญากันเถอะ

โลมา
โลมา

สัญญาว่าอย่างไรเล่า

ราชสีห์
ราชสีห์

ข้าสัญญาว่าจะช่วยเหลือเจ้าทุกครั้งที่เจ้ามีภัย

โลมา
โลมา

งั้นข้าก็ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือเจ้าทุกครั้งที่เจ้าต้องการเช่นกัน


วันหนึ่งราชสีห์มีเรื่องทะเลาะกับควายป่า จึงร้องเรียกให้ปลาโลมาช่วย แต่ปลาโลมาทำได้เพียงลอยคออยู่ริมฝั่งเท่านั้น ราชสีห์จึงตะโกนต่อว่าโลมาด้วยความโกรธ
ราชสีห์
ราชสีห์

เจ้าเพื่อนทรยศ! ไหนสัญญาว่าจะช่วยข้า เอาแต่มองอยู่นั่นแหละ

ปลาโลมาจึงพูดว่า
โลมา
โลมา

ข้าก็อยากจะช่วยเหลือเจ้า แต่ข้าอยู่ได้แต่ในน้ำ จะขึ้นไปช่วยเหลือเจ้าบนบกได้อย่างไรกันล่ะ

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“จงขอความช่วยเหลือจากผู้ที่สามารถช่วยได้อย่างแท้จริง”

มีนักธนูฝีมือดีอยู่คนหนึ่งเขาได้ออกเดินทางขึ้นภูเขาเพื่อที่จะล่าสัตว์แต่ด้วยความเก่งกาจและความหน้าแกรงขามของเขานั้นทันทีที่เขาได้ย่างเท้าก้าวเขาไปในป่าได้ทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายต่างหวาดกลัวพากันแตกตื่นวิ่งหนีเขาเพื่อเอาชีวิตรอดไปกันหมดในเวลาที่เขาเข้าใกล้พวกมัน

ณ บ้านหลังเล็กๆแถวชนบทแห่งหนึ่งมีเด็กชายที่อาศัยอยู่กับยายสองคน เด็กชายคนนี้มีนิสัยที่ดื้อเขาซุกซนและเขายังมีของโปรดที่เขาชอบกินมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือถั่วอบเกลือฝีมือคุณยายของเขานั่นเอง วันหนึ่งคุณยายจึงได้ทำถั่วอบให้หลานชายกินคุณยายได้ใส่ถั่วไว้ในเหยือกแต่ว่าคุณยายยังขาดเกลือที่จะนำมาใส่ถั่วอบ คุณยายจึงต้องออกไปซื้อเกลือที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้าน หลังจากที่คุณยายเตรียมตะกร้าใส่ของเสร็จจึงบอกหลานชายว่า

ครั้งหนึ่ง บรรดาหนูในบ้านหลังหนึ่งต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน หนูหลายตัวเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที หนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า

ปูทะเลตัวหนึ่งเบื่ออาหารใต้ท้องทะเล จึงเดินขึ้นมาหากินบนชายหาด หมาจิ้งจอกหิวโซตัวหนึ่งเดินเลาะเลียบหาดหาเหยื่อมาหลายวัน เมื่อเห็นปูทะเลตัวใหญ่ก็ดีใจตรงเข้าตะปบจับไว้ทันที

มีเจ้ามดตัวน้อยตัวหนึ่งมันได้เดินพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนๆมาไกลมาก จนกระทั่งมันได้มาหยุดที่ลำธารกลางป่าแห่งหนึ่งแต่กลับตกลงไปในลำธารน้ำไหลเชี่ยว ก้มลงหวังจะกินให้หายกระหาย แต่ด้วยความที่น้ำมันไหลเชี่ยวแรงมาก ทำให้เจ้ามดน้อยตกลงไปในน้ำและโดนกระแสน้ำพัดพาไปไกลจากที่เดิม

หมากับไก่เป็นเพื่อนรักกันมานาน วันหนึ่ง สัตว์ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน เมื่อค่ำลงจึงแวะพักแรมที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไก่บินขึ้นไปนอนบนกิ่งไม้ ส่วนหมานอนที่โคนต้อนไม้ เมื่อฟ้าสางไก่ก็โก่งคอขันรับอรุณเป็นกิจวัตรอย่างเช่นทุกวัน

มีสุนัขจอมตะกละ มันชอบกินไข่เป็นอย่างมากมันได้แวะเวียนไปที่เล้าไก่หลายครั้งเวลาที่มันหิวเพื่อที่จะได้ขโมยไข่ของแม่ไก่มากิน วันหนึ่งมันได้กินหอยนางรมทำให้มันเกือบท้องแตกตายเพราะคิดว่ามันจะอร่อยเหมือนไข่ไก่ที่เคยกิน

เจ้าสุนัขจิ้งจอกผู้เกรียจคร้านตัวหนึ่ง มันได้ออกมาเดินเล่นเพื่อที่จะหาอาหารกิน และหากว่ามันได้เห็นต้นไม้ใหญ่สักต้นแล้วละก็ มันก็จะอาศัยร่มเงาเพื่อที่จะนอนกลางวันสักหน่อย