มดกับนกเขา

มดกับนกเขา

ณ ป่าเขาที่มีลำธารใสสะอาดไหลผ่าน ลำธารแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญของผืนป่าแล้วนั้น ยังเป็นผืนน้ำที่ให้บรรดาสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายได้มาดื่มกิน

แนะนำตัวละคร
ณ ป่าเขาที่มีลำธารใสสะอาดไหลผ่าน ลำธารแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำคัญของผืนป่าแล้วนั้น ยังเป็นผืนน้ำที่ให้บรรดาสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายได้มาดื่มกิน อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอีกด้วย ซึ่งเจ้ามดตัวน้อยก็ใข้ลำธารแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นแหล่งอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน
วันหนึ่งขณะที่เจ้ามดกำลังดื่มน้ำในลำธาร เกิดมีลมพายุพัดกระหน่ำอย่างแรงจึงหอบเจ้ามดน้อยปลิวลอยละลิ่วตกลงไปในน้ำเจ้ามดพยายามกระเสือกกระสนว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง แต่มันก็ไม่สามารถต้านแรงลมที่พัดตีน้ำจนกระเพื่อมอยู่ได้ จวนมันใกล้จะหมดแรง
มด
มด

ข้าไม่ไหว ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย

มดน้อยร้องขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีนกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้ริมลำธารได้ยินเสียงอันแหลมเล็กของมัน จึงพยายามมองหาต้นเสียงด้วยความร้อนใจ
มด
มด

ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย ข้าอยู่ในลำธาร

เมื่อนกเขาเห็นดังนั้นจึงรีบจิกใบไม้ร่อนลงไปในน้ำ เพื่อที่จะให้มดเกาะใบไม้ใบนั้น
นกเขา
นกเขา

เจ้ามดน้อย เจ้าสามารถเกาะใบไม้นี่ไว้ได้หรือไม่ มันจะช่วยให้เจ้ากลับขึ้นฝั่งได้

มด
มด

ข้าขอขอบคุณเจ้าเป็นอย่างสูง ข้าสัญญาว่าจะตอบแทนบุญคุณเจ้าแน่

นกเขา
นกเขา

ไม่ต้องคิดถึงเรื่องบุญคุณหรอก ข้ายินดีที่จะช่วยเจ้า

มด
มด

เจ้าเป็นคนดีจริง ๆ

เจ้ามดเกาะใบไม้เอาไว้ และอาศัยใบไม้ให้ลอยกลับมาจนถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย
ทันใดนั้น ขณะที่ทั้งสองกำลังดีใจอยู่นั้น นายพรานคนหนึ่งย่องเข้ามาเตรียมตาข่ายจะเหวี่ยงจับนกเขา เจ้ามดเห็นเข้าจึงรีบตรงเขากัดส้นเท้าของนายพรานเต็มแรงจนนายพรานร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
นายพราน
นายพราน

โอ๊ย!

เมื่อได้ยินเสียงนายพรานร้องลั่น นกเขาจึงรู้ตัวและบินหนีไปได้อย่างทันท่วงที
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนทำดีย่อมได้ผลดีตอบแทน”

มีลาตัวหนึ่งที่กำลังทำงานอยู่ งานของมันคือการขนสัมภาระไปให้เจ้าของของมัน ยังหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ถัดออกไป สัมภาระนั้นดูมากจนเต็มหลังไปหมด มันเดินมาสักระยะหนึ่ง จนถึงธารน้ำ และตั้งใจที่จะเดินข้ามไปยังอีกฝั่ง เพราะเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้ คือหมู่บ้านซึ่งอยู่อีกฝั่งของธารน้ำ

เจ้าสุนัขจิ้งจอกผู้เกรียจคร้านตัวหนึ่ง มันได้ออกมาเดินเล่นเพื่อที่จะหาอาหารกิน และหากว่ามันได้เห็นต้นไม้ใหญ่สักต้นแล้วละก็ มันก็จะอาศัยร่มเงาเพื่อที่จะนอนกลางวันสักหน่อย

กาลครั้งหนึ่งในป่าที่หนาทึบแห่งหนึ่ง ได้มีนกฮูกและช้างซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากอาศัยอยู่ ทั้งสองได้แบ่งปันความทุกข์ความสุขให้แก่กันและกัน จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง

มีฝูงหมาป่าหิวโซอยู่ฝูงหนึ่งพวกมันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วพวกมันจึงตัดสินใจเดินไปที่แม่น้ำเพื่อที่จะดื่มน้ำหวังว่าการดื่มน้ำจะช่วยบรรเทาความหิวของพวกมันได้บ้าง แต่แล้วพวกมันก็ได้พบเข้ากับหนังสัตว์อย่างดีจำนวนหนึ่งที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำซึ่งคนฟอกหนังได้นำมาแช่เอาไว้ หนังสัตว์พวกนี้นับว่าเป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับหมาป่าที่กำลังหิวโซแต่ทว่าแม่น้ำบริเวณนั้นลึกเกินไปที่พวกมันจะเอื้อมลงไปถึงหนังสัตว์ได้ในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้หมาป่าตัวหนึ่งในฝูงก็ได้เอ่ยขึ้นว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น

ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกบฝูงใหญ่พวกมันอาศัยอยู่ในบึงน้ำกว้างอย่างมีความสุข ต่อมาในเช้าวันหนึ่งพวกกบเหล่านี้จึงปรึกษากันว่าพวกเราอยู่แบบนี้ด้วยกันมานานแล้วอยากจะหาเจ้านายหรือใครก็ได้เขาจะได้เป็นผู้นำและดูแลทุกข์สุข ช่วยปกครองดูแลพวก มันจึงได้รวมตัวกันและทำการร้องขอต่อเทวดาว่า

ณ ริมบึงอันกว้างใหญ่ ได้มีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันรู้สึกว่ามันเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่ได้แต่คลานต้วมเตี้ยมไปอย่างช้า ๆใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดินไปวันวัน มันจึงได้บ่นกับตัวเองว่า