หมีเจ้าเล่ห์กับนกกางเขน

หมีเจ้าเล่ห์กับนกกางเขน

ในป่าแห่งหนึ่ง มีเหตุผลเบอร์รี่หายไปจากสวนกลางป่า นกกางเขนเรียกประชุมสัตว์ทั้งหลายเพื่อหาคนรับผิดชอบ หมีตัวหนึ่งเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่ยอมรับผิด ขณะที่กระต่ายน้อยออกมายอมรับอย่างจริงใจ แม้ความผิดจะไม่ใหญ่โตนัก แต่ความกล้ายอมรับผิดของกระต่ายน้อยทำให้ทุกคนให้อภัย และเข้าใจว่าความสำนึกผิดมีค่ากว่าขนาดของความผิด นิทานเรื่องนี้สอนว่า ผิดน้อยหรือผิดมากไม่สำคัญ เท่ากับการรู้จักสำนึกผิดหรือไม่

345 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
ในป่าเขียวชอุ่มแห่งหนึ่ง สัตว์น้อยใหญ่ต่างใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข แต่วันหนึ่ง... มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นที่ลานกลางป่า เมื่อนกกางเขนร้องลั่นเรียกประชุมสัตว์ทั้งหลาย
นกกางเขน
นกกางเขน

ใครขโมยผลเบอร์รี่จากสวนกลางป่า? ใครก็ได้ออกมายอมรับเถอะ!

สัตว์ทั้งหลายพากันมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครกล้าออกมารับผิด ขณะนั้นเอง หมีเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งก็เดินยิ้มเข้ามา
หมีเจ้าเล่ห์
หมีเจ้าเล่ห์

แค่ผลเบอร์รี่ไม่กี่ลูกเอง จะเป็นอะไรไป?

หมีเจ้าเล่ห์
หมีเจ้าเล่ห์

เรื่องแค่นี้ ทำไมต้องเอาเป็นเอาตายด้วยเล่า

นกกางเขน
นกกางเขน

เจ้าว่ามันเรื่องเล็กน้อย เพราะเจ้ามองแค่จำนวน แต่ข้าดูที่ ‘เจตนา’ และ ‘ใจ’ ของผู้กระทำ

หมีเจ้าเล่ห์หัวเราะเยาะ
หมีเจ้าเล่ห์
หมีเจ้าเล่ห์

ถ้าอย่างนั้นข้าแค่หยิบไปไม่กี่ลูก ข้าก็ไม่ผิดนักหรอก!

ทันใดนั้นเอง เสียงจากด้านหลังดังขึ้นเบา ๆ เป็นเสียงของกระต่ายตัวหนึ่ง ที่ตัวสั่นเทา แต่ยอมเดินออกมาจากฝูง
กระต่าย
กระต่าย

ข้า... ข้าเป็นคนเก็บผลเบอร์รี่เอง ข้าหิว และข้าไม่ได้ขออนุญาต ข้าขอโทษจริง ๆ

ทั้งฝูงเงียบกริบ นกกางเขนมองกระต่ายน้อยอย่างอ่อนโยน แล้วกล่าวว่า
นกกางเขน
นกกางเขน

เจ้ากระต่ายน้อย แม้เจ้าจะผิด... แต่เจ้ากล้าที่ยอมรับและสำนึกผิด นั่นต่างหากที่สำคัญ

จากนั้นนกกางเขนหันไปมองหมีเจ้าเล่ห์ด้วยสายตาจริงจัง
นกกางเขน
นกกางเขน

ส่วนเจ้าหมี แม้เจ้าจะหยิบไปน้อย แต่เจ้ากลับไม่มีการสำนึกผิดเลยสักนิด

นกกางเขน
นกกางเขน

เรื่องที่เจ้ามองว่าเล็กน้อยน่ะ มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้อื่น

หมีเจ้าเล่ห์ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร วันนั้น กระต่ายน้อยได้รับการให้อภัย ส่วนเจ้าหมีต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นในใจตัวเองตลอดไป
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความสำนึกผิดมีค่ากว่าขนาดของความผิด เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความกล้าและความดีในตัวเรา”