ราชสีห์ หมีและหมาป่า

ราชสีห์ หมีและหมาป่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น

แนะนำตัวละคร
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์และหมีเป็นเพื่อนกัน พวกมันออกหากินที่ป่าใหญ่อยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพวกมันได้ช่วยกันหาอาหารซึ่งเหยื่อของมันก็คือซากของแพะตัวหนึ่งพวกมันได้พูดคุยและตกลงกันเพื่อที่จะแบ่งอาหารซึ่งก็คือเนื้อแพะตัวนั้น
ราชสีห์
ราชสีห์

พวกเราล่าแพะมาได้ช่วยกันเราก็ต้องแบ่งให้ได้เท่าๆกันนะ

แต่หมีกลับพูดว่า
หมี
หมี

ข้าน่าจะได้เนื้อแพะมากกว่าเจ้าด้วยซ้ำราชสีห์

ราชสีห์
ราชสีห์

เจ้าพูดอย่างนี้ได้อย่างไรข้าต่างหากที่ควรจะได้เนื้อแพะมากกว่าเจ้าเจ้าหมีจอมตะกละ

ทั้งคู่ได้ทะเลาะและถกเถียงกันอยู่เป็นเวลานานเพื่อที่จะให้ตนนั้นได้เป็นเจ้าของเนื้อแพะเพื่อมากินคนเดียวหรือได้มากกว่า พวกมันจึงเกิดการต่อสู้กันมีการใช้กำลังแต่ก็ไม่มีใครยอมแพ้ใคร จนกระทั่งในที่สุดเจ้าราชสีห์และเจ้าหมีต่างก็พากันหมดแรงและนอนล้มอยู่กับพื้น
ในขณะนั้นมีหมาป่าตัวหนึ่งมันบังเอิญเดินเข้ามา พบกับราชสีห์และหมีต่อสู้กันแล้วทั้งคู่ดูเหนื่อยล้าหมาป่าตัวนั้นถึงได้ฉวยโอกาสคาบซากของแพะไปต่อหน้าต่อตาราชสีห์และเจ้าหมี
หมาป่า
หมาป่า

เจ้าหน้าโง่ทั้งสองมัวแต่ทะเลาะกันอยู่ได้ เดียวข้าจะเอาไปกินให้เอง อาหารที่แสนจะอร่อย พวกเจ้าจงเถียงกันต่อไปเถอะ

ก่อนจะรู้ตัวว่าเนื้อแพะโดนหมาป่าขโมยไปแล้วพวกมันรู้สึกเจ็บใจและเสียดายได้แต่มองหน้ากันแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตะโกนร้องให้เจ้าหมาป่าทิ้งซากของแพะไว้ให้ได้
ราชสีห์
ราชสีห์

พวกเรานี่มันช่างโง่เอาเสียจริงๆ นี่ถ้าเรายอมแบ่งเนื้อกันคนละครึ่งก็คงไม่ถูกเจ้าหมาป่าแย่งไปหมดแบบนี้อดกินแล้วไม่น่าเลย

ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความโลภย่อมนำมาซึ่งความสูญเสีย จงมีสติและคิดใคร่ครวญให้รอบคอบไม่งั้นจะนำมาซึ่งความเสียใจในภายหลัง”

หมากับไก่เป็นเพื่อนรักกันมานาน วันหนึ่ง สัตว์ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน เมื่อค่ำลงจึงแวะพักแรมที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไก่บินขึ้นไปนอนบนกิ่งไม้ ส่วนหมานอนที่โคนต้อนไม้ เมื่อฟ้าสางไก่ก็โก่งคอขันรับอรุณเป็นกิจวัตรอย่างเช่นทุกวัน

กาตัวหนึ่งไม่ชอบใจขนสีดำของตัวเอง เพราะมันมักจะถูกล้อว่าเป็นกาดำ น่าอัปลักษณ์ มันจึงอยากจะมีขนที่งดงามเช่นเดียวกับนกยูงที่ถูกคนอื่นชื่นชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่นกยูงรำแพนขน ช่างเป็นอะไรที่งดงามเสียจริง

มีชายนักเดินทางอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่ชอบพูดแต่ความจริง ส่วนอีกคนหนึ่งชอบพูดแต่คำโกหก พวกเขาเดินทางร่วมกันมาจนมาถึงดินแดนราชาลิงโดยบังเอิญ ที่เมืองของราชาลิงมีประเพณีอยู่ว่า หากมีคนมาเยือนที่เมืองแห่งราชาลิงแล้ว จะต้องนำคนเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าท่ามกลางฝูงลิงข้าราชบริพารที่นั่งเรียงเป็นแถวเหมือนกับพวกมนุษย์ที่เข้าเฝ้าราชาของมนุษย์นั่นเองราชาลิงสั่งให้นำตัวชายทั้งสองมาพบ

เจ้าสุนัขจิ้งจอกผู้เกรียจคร้านตัวหนึ่ง มันได้ออกมาเดินเล่นเพื่อที่จะหาอาหารกิน และหากว่ามันได้เห็นต้นไม้ใหญ่สักต้นแล้วละก็ มันก็จะอาศัยร่มเงาเพื่อที่จะนอนกลางวันสักหน่อย

ณ บ้านหลังเล็กๆแถวชนบทแห่งหนึ่งมีเด็กชายที่อาศัยอยู่กับยายสองคน เด็กชายคนนี้มีนิสัยที่ดื้อเขาซุกซนและเขายังมีของโปรดที่เขาชอบกินมากๆอยู่อย่างหนึ่งคือถั่วอบเกลือฝีมือคุณยายของเขานั่นเอง วันหนึ่งคุณยายจึงได้ทำถั่วอบให้หลานชายกินคุณยายได้ใส่ถั่วไว้ในเหยือกแต่ว่าคุณยายยังขาดเกลือที่จะนำมาใส่ถั่วอบ คุณยายจึงต้องออกไปซื้อเกลือที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้าน หลังจากที่คุณยายเตรียมตะกร้าใส่ของเสร็จจึงบอกหลานชายว่า

ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีเม่นน่าสงสารตัวหนึ่งเดินเร่ร่อนหาที่อยู่อาศัย สภาพของมันทั้งหิวโซ และอิดโรยจากการเดินทางเร่ร่อนมานาน จนมาพบพวกงูใจดีตัวหนึ่งกำลังขดอยู่ที่พื้น

ณ แปลงข้าวโพดอันกว้างใหญ่ ที่ชาวไร่ได้ทำการปลูกเอาไว้เพื่อทำมาหากิน ซึ่งทุก ๆ วันที่ชาวไร่เดินทางมายังแปลงข้าวโพดเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตก็มักจะพบว่าข้าวโพดที่ตนได้ปลูกเอาไว้นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะนกยางชอบมาจิกกินข้าวโพดนั่นเอง

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเย็น ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีชายชาวนาคนหนึ่ง เขาจะมาที่ทุ่งนาอยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้มันช่างแปลกกว่าทุกวันที่ว่าเขาได้เดินมาพบกับงูตัวหนึ่ง งูตัวนั้นนอนขดและตัวแข็งทื่อเหมือนมันใกล้จะตายแล้ว อาจเป็นเพราะว่าอากาศที่แสนจะหนาวเหน็บนั่นเอง