ลุงสิงห์กับรั้วที่หายไป

ลุงสิงห์กับรั้วที่หายไป

ลุงสิงห์ ชายผู้ผลัดวันซ่อมรั้วหลังบ้านแม้เพื่อนจะเตือน จนเมื่อพายุพัดรั้วพังและวัวคู่ใจหลุดหายไป เขาจึงได้เรียนรู้ว่า การประมาทในเรื่องเล็ก ๆ อาจทำให้สูญเสียสิ่งใหญ่ในชีวิต นิทานนี้เตือนใจให้เราดูแลและแก้ปัญหาแต่เนิ่น ๆ ก่อนจะสายเกินไป

569 อ่าน
อ่านเรื่องเต็ม
กลางทุ่งแห่งหนึ่งในแดนตะวันออก ลุงสิงห์ ชายวัยเกษียณ ใช้ชีวิตเรียบง่ายในกระท่อมไม้กับเจ้าวัวแดงคู่ใจ เขารักวัวเหมือนลูก ดูแลมันทุกวัน แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เขา "ผลัดวัน" เสมอ...นั่นคือ ซ่อมรั้วหลังบ้าน
วันหนึ่ง เพื่อนบ้านของลุงสิงห์เห็นว่า รั้วบ้านของเขานั้นใกล้จะพังแล้ว ไม่แน่ว่าหากปล่อยเอาไว้แบบนี้ รั้วอาจจะพังเสียหายขึ้นมาจริง ๆ จึงมาเตือนลุงสิงห์ด้วยความหวังดี
เพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้าน

สิงห์! รั้วหลังบ้านใกล้จะพังแล้วนะ ข้าเห็นรอยแหว่งตั้งแต่เมื่อวาน

ลุงสิงห์
ลุงสิงห์

ไว้พรุ่งนี้ก่อน พอมีเวลาแล้วค่อยซ่อม ยังไงเจ้าวัวแดงก็ไม่หนีไปไหนหรอก

เพื่อนบ้านได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้า ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ลุงสิงห์อยู่กับความมั่นใจของตัวเองแบบนั้น
วันถัดมา ฝนตกหนัก พายุพัดรั้วหลังบ้านจนหลุดพังโครม! เช้าวันรุ่งขึ้น ลุงสิงห์เดินออกมาพร้อมถังน้ำแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง…
ลุงสิงห์
ลุงสิงห์

เจ้าวัวแดง! หายไปไหน

เขาร้องเรียกชื่อวัวเสียงดัง วิ่งตามหาไปทั่วทุ่ง ทั้งในป่าและริมลำธารแต่ไร้ร่องรอย เพื่อนบ้านมาเห็นก็ได้แต่เห็นใจ แต่เขาเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรลุงสิงห์ได้
ลุงสิงห์
ลุงสิงห์

รู้งี้...ฉันซ่อมรั้วตั้งแต่วันที่นายเตือนก็คงไม่เป็นแบบนี้

เพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้าน

การดูแลสิ่งสำคัญ อย่ารอให้มันหายก่อนแล้วค่อยเสียดาย

ลุงสิงห์
ลุงสิงห์

ฉันเพียงแต่คิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้น…

ลุงสิงห์กลับมาซ่อมรั้วทั้งน้ำตา ตั้งแต่นั้นเขาไม่เคยปล่อยให้สิ่งไหนพังโดยไม่สนใจอีกเลย เพราะเขารู้ดีว่า ความเสียใจมักมาช้าไปหนึ่งก้าว...
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“อย่ารอให้วัวหายแล้วจึงล้อมคอก จงป้องกันก่อนปัญหาจะเกิด เพราะบางสิ่งเมื่อเสียไป อาจไม่มีวันกลับมา”