ลูกกระพรวนกับหนู

ลูกกระพรวนกับหนู

ครั้งหนึ่ง บรรดาหนูในบ้านหลังหนึ่งต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน หนูหลายตัวเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที หนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า

แนะนำตัวละคร
ณ บ้านหลังหนึ่ง บริเวณใต้หลังคามีบรรดาหนูต่างมาประชุมกัน เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเจ้าแมวตัวร้ายที่ชอบไล่จับหนูกินทุกวัน ซึ่งปัญหานี้สร้างความทุกข์ใจให้กับบรรดาฝูงหนูเป็นอย่างมาก หากจะปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
หนูหลายตัวเริ่มเสนอวิธีต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเข้าที จนมีหนูหนุ่มตัวหนึ่งเสนอว่า
หนูหนุ่ม
หนูหนุ่ม

เอาอย่างนี้สิ เราหาลูกกระพรวนไปผูกคอเจ้าแมวกันดีกว่า

หนูหนุ่ม
หนูหนุ่ม

เวลามีเสียงดัง 'กรุ๊งกริ๊ง...กรุ๊งกริ๊ง...'

หนูหนุ่ม
หนูหนุ่ม

เราก็รู้ทันทีว่าเจ้าแมวอยู่ตรงไหนแล้วก็หนีได้ทันทีไง

เมื่อหนูทุกตัวได้ยินเช่นนั้น ต่างพากับปรบมือชื่นชมว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด หนูแก่ตัวหนึ่งจึงทักท้วงขึ้นว่า
หนูแก่
หนูแก่

ถือเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม!

หนูแก่
หนูแก่

แต่ใครจะเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมวล่ะ?

สิ้นเสียงพูดของหนูแก่ เสียงปรบมือก็เงียบกริบลงทันที
ม้า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“พูดง่าย แต่ทำยาก”

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินอย่างซุ่มซ่ามและพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่ดูแล้วลึกมาก มันพยายามที่จะตะเกียดตะกายตัวเองเพื่อที่จะเอื้อมให้ถึงและดันตัวมันเองออกมาให้ได้

มีราชสีห์ ตัวหนึ่ง ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ มันอาศัยอยู่ในถ้ำใหญ่ในป่าลึก นิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของเจ้าราชสีห์ตัวนี้คือมันมักจะขี้เกียจออกล่าเหยื่อหาอาหาร มันจึงวางแผนแกล้งป่วยแล้วนอนซมอยู่ในถ้ำแล้วขอให้สัตว์ต่าง ๆมาเยี่ยมมันเพื่อที่จะได้จับสัตว์เหล่านั้นกินเป็นอาหารอย่างง่ายดาย

ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวที่แสนจะหนาวเย็น ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมีชายชาวนาคนหนึ่ง เขาจะมาที่ทุ่งนาอยู่เป็นประจำ แต่ในวันนี้มันช่างแปลกกว่าทุกวันที่ว่าเขาได้เดินมาพบกับงูตัวหนึ่ง งูตัวนั้นนอนขดและตัวแข็งทื่อเหมือนมันใกล้จะตายแล้ว อาจเป็นเพราะว่าอากาศที่แสนจะหนาวเหน็บนั่นเอง

เจ้าลาตัวน้อยสีน้ำตาลเดินโซเซตรงมาเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ในสภาพเนื้อตัวมอมแมมซึ่งเต็มไปด้วยดินโคลน ในช่วงของฤดูแล้งที่ไม่มีสายฝนโปรยปรายลงมาจากฟ้า แม้แต่หญ้าสักต้นก็หาได้หายาก หลังจากที่เจ้าลาน้อยไม่ได้กินอะไรมาหลายวันและแล้วมันก็พบกับคอกม้าซึ่งในนี้มีม้าสีขาวตัวใหญ่ยืนอยู่มันดูสูงสง่ามาก ดูแล้วช่างแตกต่างกันมากจากสภาพของเจ้าลาในตอนนี้

หนูเเก่ตัวหนึ่งเดินทางเเรมรอนมาเป็นเวลานานเพื่อที่จะหาอาหารกลับไปยังรังของมันที่อยู่ในเขตชนบท แต่มันกลับต้องหยุดการเดินทางลงเพราะมีลำธารขนาดใหญ่ตัดเส้นทางของมัน

ราชสีห์ชราตัวหนึ่ง เมื่อครั้งที่ยังหนุ่ม มันเคยเป็นที่ยำเกรงของสัตว์ทุกตัวในป่า แต่มาวันนี้ เมื่อแก่ตัวไร้เรี่ยวแรง มันได้แต่นอนอยู่ในถ้ำรอความตายไปวัน ๆ

มีลาตัวหนึ่ง มันได้เดินทางผ่านมา แล้วบังเอิญพบกับหนังราชสีห์ที่นายพรานได้ตากทิ้งไว้ที่กระท่อมชายป่า มันจึงได้ขโมยมาคลุมตัวแล้วก็เดินเที่ยวเล่น แล้วก็ทำท่าทีองอาจราวกับเป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่ บรรดาสัตว์ที่พบเห็นหนังราชสีห์ที่คลุมตัวเจ้าลาอยู่ ต่างก็เข้าใจว่ามันเป็นราชสีห์เจ้าป่าที่ออกล่าเหยื่อจริง ๆ เพราะมันดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน แล้วพวกมันก็พากันวิ่งหนีกระเจิงไปทั่ว ในขณะนั้นเองก็มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งมันได้เดินทางมาพบเห็นพอดีแล้วมันก็ได้ยินเสียงที่มันไม่คิดว่าเคยได้ยินมาก่อน ก็คือเจ้่่าลาทำท่าและทำเสียงร้องคำรามเลียนแบบราชสีห์

ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอเพียงแค่เราใช้สติในการตัดสินใจและมองหาทางออกอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้